
น้ำตาซึมเลยจริงๆ!
วันนี้ (14 เม.ย.68) รายการโหนกระแส ได้ไลฟ์และร่วมพูดคุยกับเคสของ ผู้รับบริจาคหัวใจดวงที่ 110 ได้เดินทางมาเจอกับครอบครัวเจ้าของหัวใจในรายการ โดยระบุว่า…
มีครอบครัวหนึ่งที่พึ่งจะสูญเสียลูกชาย ทางครอบครัวจึงอยากให้ตัวของผู้เสียชีวิตได้บุญกุศลในครั้งนี้จึงได้มีการทำเรื่องยกอวัยวะของลูกชาย(ผู้เสียชีวิตไปแล้ว) ให้กับผู้ที่ต้องการ ซึ่งในเคสนี้ ผู้เสียชีวิต เป็น ผู้ชายอายุแค่ 20 ปี ทางบ้านจึงได้เซ็นเอกสารเพื่อยก”หัวใจ” และ “ไต 2 ข้าง” ให้กับผู้ที่ต้องการรับต่อเพื่อต่อชีวิต ซึ่งมีถึง 3 คนที่ได้อวัยวะในส่วนที่บริจาคไป ทั้งนี้การบริจาคอวัยวะจะมีกฏคือไม่สามารถบอกได้ว่า สิ่งนั้นไปอยู่ที่ใคร แต่สำหรับกรณีนี้กลับมีความแปลกเพราะเหมือนกับหัวใจนั้นพยายามตามหาครอบครัวของเขา เนื่องจากคนที่ได้รับหัวใจของผู้เสียชีวิต กลับรู้ว่าครอบครัวของเจ้าของหัวใจนั้นอยู่ที่ไหนแล้วเขาก็เจอกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ


โดยในรายการได้พบกับผู้ได้รับหัวใจดวงนั้น คือ คุณปู และอีกฝั่ง คือ ครอบครัวของเจ้าของหัวใจ ซึ่งเรื่องราวคร่าวๆได้บอกว่า คุณพ่อมีลูกทั้งหมด 4 คน โดยเจ้าของหัวใจ ชื่อ “น้องอู๋” เป็นลูกคนที่ 3 อายุ 20 ปี ส่วนตัวน้องเป็นคนสดใสร่าเริง นิสัยดี น้องเรียนอยู่ชั้น ปวส. ที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งฝั่งพี่สาวได้เปิดเผยเรื่องราวที่ทำให้น้องอู๋ ต้องเสียชีวิต ให้เหตุผลว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2568 น้องได้เลิกเรียนตามปกติ และมาช่วยพี่ขายผักที่ตลาดตามปกติไม่มีอะไร หลังจากขายเสร็จก็เก็บของแต่น้องก็บอกว่าขอนั่งกับเพื่อนก่อนแปปหนึ่ง ด้านพี่สาวก็ไม่ได้ว่าอะไรและได้เดินทางกลับก่อน พอพี่สาวกลับไปถึงบ้านประมาณ 21.00 น. เพื่อนของน้องก็โทรมาบอกว่า น้องประสบอุบัติเหตุขับรถมอเตอร์ไซต์ชนป้ายช่วงโค้งหักศอกตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ตอนที่พี่สาวเดินทางตามไปที่โรงพยาบาลก็เห็นว่าน้องอยู่ในห้องฉุกเฉิน หลังจากนั้นถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่บุรีรัมย์ต่อ หลังจากนั้นไม่นานด้านคุณหมอเดินออกมาแจ้งว่า น้องมีอาการทางสมอง สมองได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรง ทำให้ด้านญาติเองก็ได้ทำใจเผื่อไว้แล้ว มาจนถึงช่วงเที่ยงของวันที่ 3 ม.ค.68 หมอก็ได้ออกมาแจ้งอีกครั้งว่าน้องสมองตาย อาจไม่มีโอกาสรอด ทำให้ด้านของพยาบาลได้มาพูดคุยเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ ทางครอบครัวจึงได้ตัดสินใจร่วมกันในการสร้างบุญครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายให้กับน้อง ด้วยการเซ็นบริจาคหัวใจและไต ให้คนอื่นต่อ ทั้งนี้ก็ได้มีทีมแพทย์จากศิริราชได้เข้ามาตรวจมาเช็กอวัยวะของน้องเพื่อที่จะดูว่าส่วนไหนนำมาใช้ได้บ้าง ซึ่งก็เป็นในส่วนของ “หัวใจ” และ “ไต 2 ข้าง”



จนมาถึงวันที่ 5 ม.ค.68 หัวใจของน้องได้ออกจากร่างของน้องอย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง
ส่วนด้านของ คุณปู ผู้รับบริจาคอวัยวะของน้องอู๋เอง ได้เล่าวินาทีชีวิตว่า ตนนั้นป่วยเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น ซึ่งมีการตรวจตั้งแต่ปี 65 พบว่า 2 เส้นหลักตีบไปแล้ว 100% ส่วนเส้นหลังตีบไปแล้ว 80% พอพบหมอก็นัดทำบอลลูน ซึ่งทำเสร็จแล้วก็อยู่ได้ประมาณ1 ปี 2 เดือนก็เกิดการตีบอีก ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวกเหมือนคนเป็นโรคหัวใจปกติ ทางคุณปูได้รับการแก้ไขจากหมออยู่ตลอด แต่ยังไม่ดีขึ้น ทำให้เกิดน้ำท่วมปอดจนหายใจไม่ออก และไม่สามารถรักษาใดๆได้แล้ว จนต้องส่งตัวไปที่ศิริราช ซึ่งหมอก็ได้บอกว่าจะมีคิวผ่าตัดอีกทีคือก่อนปีใหม่ แต่อาการไม่ค่อยดีทำให้คุณปูมีอาการน็อค ด้านหมอเองก็บอกแค่ว่า ความดันต่ำมาก และหัวใจทำงานอยู่แค่ 7% แล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน คุณปูก็อาการแย่ลงมาก จนขนาดว่าญาติคิดจะเซ็นยินยอมเกี่ยวกับการเสียชีวิตแล้ว จนมาถึงเช้าวันที่ 28 พ.ย.67 คุณปูฟื้นขึ้นและอาการก็ดีขึ้นกว่าตอนแรก แต่ก็ยังไม่ดีมาก อาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดีอยู่ตลอด ทำให้ท้อจนคิดว่าไม่น่าจะรอดแล้ว จนโชคช่วยคุณปู ในวันที่ 4 ม.ค.68 ด้านพยาบาลได้มาแจ้งให้รอลุ้นว่าจะได้หรือไม่ได้หัวใจอย่างไร โดยให้อดข้าว อดน้ำ รอไว้ก่อน ซึ่งมาถึงเช้าวันที่ 5 ม.ค.68 ทราบผลว่าหัวใจของ น้องอู๋ ที่บริจาคมานั้น ใช้ได้ และหัวใจนั้นจะเป็นของคุณปูในไม่ช้า แต่ปฏิหารย์กลับเกิดขึ้นกับเคสนี้เมื่อการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีและหัวใจได้เข้าไปอยู่ในร่างกายของคุณปูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่เกิดหลังจากนั้นคือ ทั้งคุณปู และ ครอบครัวของน้องอู๋ กลับมาเจอกันโดยที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย ซึ่งเชื่อว่าหัวใจของน้องอู๋ คงอยากตามหาครอบครัวของตนมากๆ เพราะหลังจากที่คุณปูรักษาตัวจนหายแล้ว ก็พบกับคลิปการนำส่งหัวใจ และเห็นหมอ รวมถึงภรรยาของตนในคลิป ทำให้รู้ว่า ของในกระติกนั้นคือหัวใจที่จะนำมาช่วยชีวิตตนนั่นเอง หลังจากนั้นคุณปูก็รู้เรื่องราวเพราะ ครอบครัวของน้องอู๋ได้รีโพสต์ และก็เลยไปตามดูว่าคนนี้คือใคร ด้านคุณปูก็ได้เข้าไปดูที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แล้วได้เห็นภาพที่โรงพยาบาลมอบประกาศนียบัตรให้กับคุณพ่อน้องอู๋ จึงได้ค่อยๆหาประวัติว่าเขาคืดใครกันแน่ แต่จังหวะดันตรงเมื่อคุณปูมีเพื่อนอยู่ที่บุรีรัมย์ แล้วรู้จักคนในภาพ ก็เลยส่งเฟสของครอบครัวน้องอู๋ มาให้คุณปู จึงได้คุยกันความก็เลยแตกว่า เขาก็คือครอบครัวของคนที่บริจาคหัวใจมาให้นั่นเอง ทำให้ทั้งคู่ได้รู้ว่า ใครได้หัวใจดวงนี้ไป ทางคุณพ่อเองก็อยากที่เจอกับคุณปู และอยากฟังเสียงหัวใจลูกตัวเองสักครั้ง ด้านคุณปูเองก็ไม่รอช้าเมื่อตนดีขึ้นแล้วก็ได้เดินทางไปหาครอบครัวของน้องอู๋ในทันที หลังจากได้เจอกันก็ทำเอาพูดไม่ออก เพราะดีใจที่ได้เจอและได้ฟังเสียงหัวใจลูกอีกครั้ง และบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและตื่นเต้น ทำทุกคนน้ำตาซึมกันทุกคน
‘อีจัน’ก็ขอแสดงความยินดีกับคุณปู และขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของน้องอู๋ด้วยนะคะ บอกเลยว่าเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากที่สุดค่ะ





ขอบคุณข้อมูล+ภาพ จาก เพจ โหนกระแส https://www.facebook.com/share/v/1DsyLnJ4Cn/