น่าเป็นห่วงสุด ๆ เลยค่ะ สำหรับกรณีอุบัติเหตุบนเครื่องบิน โดยเฉพาะ “เครื่องบินตกหลุมอากาศ”
ล่าสุดวานนี้ (2 ก.ค.67) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หรือ ดร.ธรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาพูดถึงประเด็นเครื่องตกหลุมอากาศ ผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า…
“โลกร้อนทำให้เครื่องบินตกหลุมอากาศเพิ่มขึ้น 55%
จากเหตุการณ์สิงคโปร์แอร์ไลน์ ล่าสุดสายการบิน air europa ต้องลงจอดฉุกเฉิน มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 30 คน
ข้อมูลจากงานวิจัยอยู่ในภาพ เพื่อนธรณ์จะเห็นสีแดงเข้มเพิ่มขึ้นในบริเวณต่าง ๆ เมื่อเทียบปี 1979 กับปี 2020
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า ในอนาคตอีก 25 ปีขึ้นไป ในพื้นที่บางแห่ง เช่น แอตแลนติกเหนือ การตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บอาจเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า รวมถึง clear-air turbulence ที่อาจเกิดบ่อยขึ้น 4 เท่าภายในปี 2050
โลกร้อนเข้าสู่ยุคโลกเดือด หลายอย่างเปลี่ยนแปลง ผลกระทบเกิดตั้งแต่ใต้น้ำไปจนถึงกลางฟ้า เราเป็นผู้ก่อ เราก็ต้องเป็นคนหยุดมหันตภัยนี้ให้จงได้ แต่ในระหว่างที่โลกยังคงร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เราคงได้แต่เตรียมรับมือให้ดีที่สุด ยุคนี้ผมใส่เข็มขัดตลอดทางที่นั่งเครื่องบินไม่ว่าไปไหน ใกล้ไกลไม่เกี่ยว อะไรก็เกิดได้ในพริบตาครับ”
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า เพียงเดือนครึ่ง (21 พ.ค.-2 ก.ค.67) มีข่าวใหญ่เครื่องบินตกหลุมอากาศแล้วกว่า 5 เคส ดังนี้
วันที่ 21 พ.ค.67 เกิดเหตุสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ321 ที่ออกเดินทางจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศสิงคโปร์ เผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวน และประสบเหตุตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จนทางสายการบินต้องขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ
วันที่ 26 พ.ค.67 ทางสนามบินดับลิน ในประเทศไอร์แลนด์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เครื่องบินโดยสารของสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ส เที่ยวบินจากกรุงโดฮามายังไอร์แลนด์ ประสบเหตุตกหลุมอากาศระหว่างบินเหนือประเทศตุรกี ทำให้มีผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 12 ราย ประกอบด้วย ผู้โดยสาร 6 คน และลูกเรือ 6 คน
วันที่ 16 มิ.ย.67 World Forum ข่าวสารต่างประเทศ รายงานว่า เที่ยวบินในประเทศนิวซีแลนด์ NZ607 แอร์บัส A320 เดินทางจากเวลลิงตันไปยังควีนส์ทาวน์ ประสบปัญหาสภาพอากาศปั่นป่วน มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือผู้โดยสารถูกน้ำร้อนลวก น้ำร้อนสำหรับชงกาแฟ จากลูกเรือ ลูกเรือ 1 คนชนกับเพดาน
วันที่ 22 มิ.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ผู้โดยสารสายการบินโคเรียนแอร์ไลนส์ ประเทศเกาหลี เที่ยวบินที่ KE189 เกิดเหตุเครื่องบินดิ่งวูบกลางอากาศ ร่วงหล่นลงเป็นระยะทางมากกว่า 8 กิโลเมตร ภายใน 15 นาที หลังขึ้นบินจากสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ไปสนามบินไถจง ได้เพียง 50 นาที ทำให้มีผู้โดยสาร 13 รายจาก 125 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการปวดหัวและหู ทำให้นักบินตัดสินใจนำเครื่องวกกลับไปลงจอดที่สนามบินอินชอน
ก่อนที่วานนี้ (2 ก.ค.67) จะเกิดเหตุตกหลุมอากาศขึ้นอีก เคสที่ 5 ที่เป็นข่าวใหญ่ในระยะเวลาเดือนครึ่ง (21 พ.ค.-2 ก.ค.67) นั่นคือ เครื่องบิน โบอิ้ง 787-9 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบินแอร์ยูโรปา เที่ยวบินที่ออกเดินทางจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน ไปยังกรุงมอนเตวิดิโอ ประเทศอุรุกวัย ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บกว่า 30 ราย จนต้องขอลงจอดฉุกเฉินที่ บราซิล
อย่างไรก็ตาม นอกจากเหตุการณ์เครื่องบินตกหลุมอากาศแล้ว ยังมีอุบัติเหตุอื่น ๆ บนเครื่องบินให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ เช่น เครื่องบินฝ่าพายุลูกเห็บรุนแรง จนกระจกบังลมร้าว ส่วนด้านหน้าเครื่องบริเวณจมูกพังยับ, หลังคาสนามบินสนามบินเดลีถล่ม, เครื่องบินชนฝูงนกฟลามิงโก ตายเกลื่อน 36 ตัว ขณะลงจอดที่สนามบินมุมไบ ประเทศอินเดีย
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่จริง ๆ ค่ะ ยังไงก็ระมัดระวังกันด้วยนะคะ ‘อีจัน’ เป็นห่วง