![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739264310_828485-ejan-768x402.jpg)
ลูกเพจคิดยังไงกับ #กฎหมายห้ามขายเหล้าในวันพระใหญ่?
ล่าสุดวันนี้ (11 ก.พ.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุม ครม.ว่า รัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจและหลากหลายกลุ่ม ถึงข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และไม่สอดคล้องกับนโยบายที่สิ้นปีนี้รัฐบาลจะส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ในธีมของ “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ทัวร์ริซึม แอนด์ สปอร์ตเยียร์”
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739261691_796950-ejan-1024x683.jpg)
จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติมเรื่องห้ามขาย ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. หรือวันทางพุทธศาสนาต่าง ๆ ว่าเรื่องนี้กระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง รวมถึงการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และการติดขัดการควบคุมเป็นโซนนิ่ง ซึ่งกฎบางกฎออกมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเรื่องนี้ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้อย่างง่ายดายด้วย เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ถ้าปลดล็อกเพิ่มรายได้ผู้ประกอบการและการท่องเที่ยวแล้ว เยาวชนต้องถูกปกป้องเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแอลกอฮอล์ เรื่องนี้ก็ให้ความสำคัญ และไม่ได้ละเลย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ห้ามไว้ คือ เรื่องของเวลาช่วง 14.00-17.00 น. ส่วนวันสำคัญทางพุทธศาสนา จะให้ทีมลงไปศึกษาดูก่อน เพราะวันพระใหญ่ หรือวันที่ยังห้ามอยู่นั้น ชาวต่างชาติที่เข้ามาเขาไม่ทราบมาก่อน ก็จะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว เพราะธีมปีนี้ เน้นเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องนี้ต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คนจะไม่เมากันทั้งประเทศเหรอ?
บรรดารัฐมนตรีที่ยืนอยู่ด้วยหัวเราะ โดยนายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “โอ้ว จริงๆ ปกติทุกท่านดื่มกันทุกวันเลยเหรอ ดื่มหนักนะคะ” พร้อมกับหัวเราะ
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะบอกว่า “จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้มีกฎเรื่องนี้ ตอนที่ห้ามขายเวลาดังกล่าวมาช่วงไม่เท่าไหร่นี้ ซึ่งตนเองบอกกับคณะรัฐมนตรีว่าต้องเน้นย้ำเรื่องของการเข้าถึงมากกว่า คนที่เป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะก็เรื่องหนึ่ง แต่เด็กนั้นมากกว่าที่เราต้องโฟกัส ไม่ใช่ว่าพอปลดล็อกทุกคนจะมีสิทธิซื้อขาย มันไม่ใช่ นี่คือเรื่องต้องเน้นย้ำมาตรการให้ถูกจุด”
จับตากันต่อค่ะว่าเรื่องนี้จะจบยังไง กฎหมายห้ามขายเหล้าในวันพระใหญ่จะถูกยกเลิกหรือไม่?
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739261723_709292-ejan.jpg)
อย่างไรก็ตาม วันพระใหญ่ วันมาฆาบูชา 12 ก.พ.68นี้ ยังคงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่นะคะ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า…
“งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา
ตำรวจพร้อมเข้มงวดดูแลความปลอดภัยประชาชนโดยเฉพาะศาสนสถานทั่วประเทศ
โดย พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ (รอง ผบก.สปพ.รรท.ผบก.สท.) กล่าวว่า วันมาฆบูชาซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญทางพุทธศาสนา ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งตามประกาศราชกิจจานุเบกษา กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา 5 วัน ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ยกเว้นการขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศนั้น
กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอย้ำเตือนร้านค้าและผู้ประกอบการให้งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งชนิดขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 00.01 – 24.00 น. ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 (ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ) หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
นอกจากนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ กล่าวว่า ในวันมาฆบูชาจะมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางไปทำบุญ ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดหรือศาสนสถานต่างๆ ทั่วประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการร้านค้า
พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับตำรวจทั่วประเทศดูแลความปลอดภัยตามมาตรการด้านต่างๆ อย่างเข้มงวด โดยสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดกำลังสายตรวจออกตรวจตราตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา และกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เรียบร้อย
พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล หากต้องการความช่วยเหลือ หรือพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ทางสายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง”