สั่งย้ายด่วน! ครูถ่ายคลิปวิตถาร ห้ามกลับเข้าโรงเรียนอีกเด็ดขาด งานนี้ ผอ.โดนด้วย 

สั่งย้ายด่วน! ครูใส่หน้ากากหมา-ถ่ายคลิปวิตถาร “ชาดา” ลุยสอบ สั่งห้ามเข้าโรงเรียนอีก งานนี้ ผอ.โดนด้วย ย้ำ! ในอุทัยฯ ต้องไม่เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำอีก

โดนสั่งย้ายทั้ง ครูและ ผอ. แล้วค่ะ สำหรับกรณีครูชายโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุทัยธานี มีพฤติกรรมวิตถาร ถ่ายคลิปตัวเองในชุดหน้ากากหมา โซ่ล็อกคอ และมีหาง ภายในห้องเรียน ขณะที่ทางฝั่งผู้อำนวยการโรงเรียนกลับพยายามปกปิดเหตุการณ์ และขอให้นักเรียนอย่าเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนที่จะมีคนแจ้งเรื่องไปถึงกัน จอมพลัง จนนำไปสู่การดำเนินการในเรื่องดังกล่าว 

ล่าสุด เช้าวันนี้ (25 ก.พ. 68) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า วานนี้ (24 ก.พ. 68) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.จ.อุทัยธานี เขต 2 ได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมด้วยนายวานนท์ นนทวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยได้พูดคุยกับทางคณะครูและผู้นำในชุมชนถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น  

เบื้องต้นนั้นได้สั่งย้ายให้ทาง ผอ.โรงเรียน และครูชายรายนี้ไปประจำการที่สำนักงานเขต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการในเรื่องนี้ โดยพบว่าพฤติกรรมครูชายรายนี้ มีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าวจริง และพบว่ามีการขอถุงเท้า ขอชุดชั้นในนักเรียนชาย   

จากนั้น จึงได้เรียกรวมนักเรียนทั้งโรงเรียนที่มีประมาณ 300 กว่าคน มาประชุมหารือร่วมกัน โดยเปิดโอกาสในนักเรียนได้พูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว แต่พบว่าไม่มีนักเรียนรายใดออกมาพูดในเรื่องนี้ นายชาดาจึงพูดคุยชี้แจงกับนักเรียนว่าไม่ต้องกังวลว่าเรื่องนี้จะไม่ได้รับความเป็นธรรม ผอ.และครู จะถูกสั่งห้ามไม่ให้กลับเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้อีกอย่างเด็ดขาด ขอให้นักเรียนทุกคนกลับไปบอกผู้ปกครองด้วยว่า หากครูรายนี้ได้ไปที่บ้านใครหรือไปพบนักเรียนคนไหน ให้แจ้งกำนัน และนายกเทศบาลในพื้นที่ได้เลยทันที 

นายชาดา กล่าวอีกว่า พอทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้ลงพื้นที่ดำเนินการทันที ตอนนี้ให้ ผอ.และครูรายนี้ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตแล้ว โดยพูดคุยชี้แจงกับนักเรียนทั้งโรงเรียนแล้วว่า ให้สบายใจได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมหรือไม่ได้รับความปลอดภัย โดยตนเองประกาศสั่งห้ามไม่ให้ครูรายนี้เข้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้อีกเด็ดขาด หากมีนักเรียนรายใดพบเห็นครูรายนี้ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศบาลได้เลยทันที สำหรับตนเองนั้นมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรที่จะปล่อยผ่านอย่างเด็ดขาด ควรที่จะได้รับการแก้ไข และไม่ควรมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนใดอีก พฤติกรรมเช่นนี้ไม่สมควรที่จะได้เป็นครูอีกแล้ว ไม่ควรทำให้ชุดข้าราชการครูเสื่อมเสียแบบนี้ โดยตอนนี้ได้สั่งการให้ทุกโรงเรียนในจังหวัดตรวจสอบเรื่องนี้ทุกโรงเรียน เพราะตนเองจะไม่ยอมให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนของจังหวัดอุทัยธานีอีกอย่างเด็ดขาด 

ทั้งนี้ นายวานนท์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางสำนักงานเขตได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทำเนินการทางวินัยต่อไป และสั่งให้ครูที่ก่อเหตุมาช่วยราชการที่เขตไม่ให้ครูอยู่ในพื้นที่ ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนก็เช่นกัน ถูกสั่งให้พักราชการมาช่วยราชการที่เขตเหมือนกัน ซึ่งให้การช่วยเหลือหรือปกปิดข้อมูล หรือสั่งให้ออกจากโรงเรียนทั้ง 2 คนเลย และในส่วนของการสอบสวนว่าสาเหตุของการทำนั้นยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวน 

ขณะที่ ช่วงเย็นวานนี้ (24 ก.พ.68) ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท ก็ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้กรณีดังกล่าว ผ่านเพจเฟซบุ๊ก สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์ ระบุว่า…   

“เห็นข่าวคลิปชายแต่งครูสวมหน้ากากเหมือน แบทแมน วิตถาร จ้ำจี้มะเขือเปาะแปะ 

สงสัยมะ เฮ้ย ทำไมคนพวกนี้ ชอบอะไรแปลกๆ ถือแส้ ตบตัว ตบก้นเพี๊ยะ ใส่ชุดหนัง บ้างเทียนหยด ผูกมัดดูน่าจะทรมานมากกว่าดีเน๊อะ แต่ การเกิดความสุขของกลุ่มนี้ มันมีที่มาที่ไป จากศาสตร์สมองนี่เอง  

มารู้จักกลุ่มพวก BDSM กันก่อน 

BDSM ย่อมาจาก Bondage and Discipline (การพันธนาการและการลงโทษ), Dominance and Submission (การครอบงำและการยอมจำนน), Sadism and Masochism (ซาดิสม์และมาโซคิสม์) ซึ่งเป็นชุดของพฤติกรรมทางเพศที่มีการตกลงกันและให้ความยินยอมระหว่างคู่สัญญา มีพฤติกรรมทางเพศที่แสดงอำนาจสะใจที่ได้ข่มเหง การควบคุมทางร่างกายมัด ด้วยความสะใจ ยิ่งความรู้สึกเจ็บปวดหรือพึงพอใจทางเพศ  

อจ. อธิบายหน่อย Ok ฟังทางนี้  

ข้อ 1 เลยนะ การรับรู้ความเจ็บปวดและเส้นทางแห่งความสุข มันรับรู้ไปจบที่สมองส่วนเดียวกัน  

น่าสนใจไหม คือการที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม BDSM รับรู้ “ความเจ็บปวด” ต่างจากปกติ  

โดยทั่วไปความเจ็บปวดจะเป็นสิ่งไม่ชอบ เลวร้าย แต่ผู้ที่มีส่วนร่วมใน BDSM กลับรับรู้ว่าความเจ็บปวดในแบบที่มีการตกลงยินยอมกันสามารถสร้างความพึงใจได้ มันมีงานวิจัยสมอง  

ความเจ็บปวดและความสุขมีเส้นทางประสาทร่วมกัน: ทั้งสองกระตุ้นบริเวณสมองเดียวกัน เช่น insula, anterior cingulate cortex (ACC) และ nucleus accumbens ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมวลผลทางอารมณ์และระบบตบรางวัล  

โดยความเจ็บปวดที่ควบคุมได้สามารถกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสารเอ็นดอร์ฟิน ส่งผลให้เกิดภาวะคล้าย “เมาแบบธรรมชาติ” คล้ายกับภาวะหลังออกกำลังกายอย่างหนัก (runner’s high) ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมบางคนถึงรู้สึกเคลิบเคลิ้มหลังการเล่น BDSM ร้อง โอ้ยๆ แต่สายตาบอกว่า เอาอีก  

เมื่อควบคุมการจะรับว่าปวดหรือไม่ได้ สมองจะมีการประเมินความเจ็บปวดใหม่ (Cognitive Reappraisal) ผู้ที่เข้าร่วม BDSM สามารถปรับกรอบความคิดใหม่ให้มองว่าความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่ให้ความสุขหรือน่าตื่นเต้น ทำให้สมองประมวลผลความรู้สึกเจ็บปวดแตกต่างจากปกติ 

ยิ่งเจ็บยิ่งมันส์ ว่าซ่าน  

ข้อต่อมา เป็นข้อบทบาท เราจะเห็นว่า พวก BDSM เค้าจะมี 2 บทบาท ได้แก่ผู้ครอบงำและผู้ยอมจำนน 

ผู้ครอบงำ (Dominance): 

การกระตุ้นสมองระบบตบรางวัล prefrontal cortex และบริเวณที่เกี่ยวข้องกับระบบโดปามีนถูกกระตุ้นมากขึ้นเมื่อมีการควบคุมหรือตัดสินใจ ซึ่งคล้ายกับความรู้สึกพึงพอใจหลังจากประสบความสำเร็จหรือได้รับชัยชนะ จัดได้แล้ว เยี่ยมไปเลย เอารางวัลความสุขไป  

ผู้ยอมจำนน (Submission): 

สำหรับผู้ที่รับบทบาทยอมจำนน สมองกิจกรรมของ Default Mode Network (DMN) ลดลง 

DMN เป็นเครือข่ายสมองที่เกี่ยวข้องกับความคิดเกี่ยวกับตัวเอง การลดกิจกรรมของ DMN สอดคล้องกับรายงานของผู้เล่นที่เข้าสู่สภาวะ “subspace” ซึ่งเปรียบได้กับภาวะจิตใจที่ล่องลอยเคลิ้ม เหมือนท่องอวกาศอยู่  

นอกจากนี้ ยังมีระบบดูแลหลังการเล่น (Aftercare) ด้วยนะ  

Aftercare คือกระบวนการดูแลกันหลังเสร็จกิจกรรม BDSM เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ลดระดับคอร์ติซอลและกระตุ้นการหลั่งออกซิโทซิน ส่งผลให้คู่เล่นรู้สึกผูกพันและปลอดภัย เหมือนได่พิชิตภูเขาเอเวอร์เรสด้วยกันมา ก็ต้องดูแลกัน  

เนี่ย พอมาดูข่าวนี้คิดถึงละครไทย ก็ว่า ทำไมพระเอกซาดิสต์ นางเอกถึงรักนักหนา  

มันเป็น เช่นนี้นะเอง  

ปล. อย่าหาทำนะ โดยเฉพาะสถานที่ ที่มันไม่เหมาะสมนะ บางราย รุนแรงนี่ ห้อเลือดหรือ ถึงชีวิตก็มี” 

ฮั่นแน่! อ่านมาถึงตรงนี้ มีใครเสพติดความเจ็บปวดบ้าง รู้ว่าเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก เจ็บอยู่ซ้ำๆ ก็ยังรักเขา ก็ถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลแต่อย่าเกินพอดีจนสร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่นล่ะ ‘อีจัน’ เป็นห่วง 

ล่าสุด ชาวเน็ตขุดแรง ค้นเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียน พบ เคยโพสต์แสดงความยินดีคณะครูได้รับรางวัลครูดีเด่น 1 ในนั้นมี “ครูหน้ากากหมา” คนดังกล่าว ได้รับรางวัลระดับดีเด่น ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี