
ครอบครัว ลูก หลาน หรือใครที่ต้องดูแลผู้สูงอายุ ได้เฮ หลังรัฐบาลเตรียมแจกเงิน 3,000 บาท ต่อเดือน ตามนโยบายส่งเสริม คุ้มครอง สนับสนุนผู้สูงอายุ สร้างความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำ แต่จะมีเงื่อนไข ขั้นตอน และเอกสารที่ต้องใช้อะไรบ้างนั้น เช็กเลย
ตามที่ราชกิจจานุเบกษามีการประกาศระเบียบกรมกิจการผู้สูงอายุ ว่าด้วยการคุ้มครองผู้สูงอายุแบบครอบครัวอุปถัมป์ พ.ศ. 2566 ตามนโยบายรัฐบาล และเพื่อตอบสนองผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มีความต้องการอยู่กับครอบครัวชุมชนและสังคม สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันที่ท้าให้เกิดปัญหาครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้

ดังนั้นเพื่อคุ้มครองผู้สูงอายุให้มีความปลอดภัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการสนับสนุนให้ครอบครัว ชุมชน ดูแลผู้สูงอายุ และทำให้ผู้สูงอายุได้อยู่ร่วมกับครอบครัว ชุมชน และสังคม ตลอดจนเพื่อให้มีระเบียบในการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โดยมีการจำกัดความ ครอบครัวอุปถัมภ์ ไว้ว่า หมายถึง บุคคลหรือครอบครัวที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือ ผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ให้เป็นครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน และไม่มีผู้ดูแลหรือ มีแต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ และมีรายละเอียด เงื่อนไขการคุ้มครอง ดังนี้
การขอคุ้มครองสามารถขอได้เพียงคราวละ 1 คน หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน
คุณสมบัติผู้ที่มีความประสงค์ขอเป็นครอบครัวอุปถัมภ์
1.มีสัญชาติไทย
2.มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือถ้ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่มีความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการอนุมัติเป็นราย ๆ ไป
3.มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ
4.ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่า มีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายยุ
5.ไม่เป็นผู้ต้องหากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

แจ้งหรือยื่นเรื่องขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์ได้ที่ไหนบ้าง?
1.กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่กรมกิจการผู้สูงอายุหรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด
2.จังหวัดอื่น ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้น
เอกสารของผู้ยื่นขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์
1.ทะเบียนบ้าน
2.บัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวที่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน
3.รูปถ่ายหน้าตรง ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
หลังจากนั้นจะมีนักสังคมสงเคราะห์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายไปเยี่ยมบ้านของผู้ยื่นคำขอและผู้สูงอายุ เพื่อตวรจสอบข้อเท็จจริงนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาคุณสมบัติต่อไป
จำนวนเงินที่จะได้รับ
เบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 2,000 บาท ต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและเหมาะสม จะมีการพิจารณาให้เงินช่วยเหลือไม่เกินครอบครัวละ 3,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยในปีนี้มีงบประมาณรองรับทั้งสิ้น 1,100 ราย จากนั้นจะมีการประเมินผลเพื่อตั้งงบรองรับเพิ่มเติมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมกิจการผู้สูงอายุ, ราชกิจจานุเบกษา