เดือดสุด! คู่กรณี “ฉลามจัส” ฟาดกลับ! ลั่นหลักฐานแชท – วิดีโอครบ

ยังไม่จบ! หลังจากที่ “ฉลามจัส” ออกมาชี้แจงในกรณีถูกอ้างปมเจ้าชายอะลาดินติดหนี้กิ๊กเก่า บอกจะจัดการทุกอย่างเอง แต่ด้านคู่กรณีออกมาฟาดกลับดุเดือด!

ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงในเวลานี้ สำหรับ“ฉลามจัส” หรือ “ดุลยวัต แก้วศรียงค์” แฟนหนุ่มของอินฟลูฯชื่อดัง “มิกซ์ เฉลิมศรี” ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ถูกโยงเป็น “เจ้าชายอะลาดิน ผู้คลั่งรักเจ้าหญิงอินฟูล แต่ติดหนี้กิ๊กเก่าหลักล้าน บอกจะคืนแต่ก็เงียบกริบ” ก่อนที่ “ฉลามจัส” จะออกมาชี้แจงในเวลาต่อมา

โดย ฉลามจัส ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดราม่าดังกล่าว ว่า…

“ตัวผมและคู่กรณีไม่ได้มีสถานะเป็นแฟน หรือลึกซึ้งมากกว่านั้น ( ผมมีแฟนคนเดียว ) ในช่วงเวลานั้น ยอมรับว่าช่วงเวลานั้นมีคนมาคุยหลายคน ไม่ได้ปิดกั้นใคร และก็ไม่ได้ปฏิเสธคู่กรณี เพราะเขามาด้วยความรู้สึกดี

แต่หลังจากเปิดตัวแฟนคนปัจจุบันแล้ว เขาจึงพยายามพูดคุยกับคู่กรณีเพื่อยุติความสัมพันธ์ แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมรับ ทำให้จัสตัดสินใจให้สถานะเป็นแค่ “ผู้จัดการส่วนตัว” เพื่อรักษาน้ำใจ และรับปากกับแฟนว่าจะเคลียร์ปัญหาเอง

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเรื่องบัตรเครดิต จัสชี้แจงว่าไม่เคยร้องขอให้คู่กรณีทำบัตรเครดิตเสริมให้และไม่เคยเรียกร้องให้จ่ายเงินคืนสักครั้ง แต่บางครั้งก็ได้ขอคืนตามความเกรงใจ แต่ในยอดสุดท้ายไม่ได้จ่ายคืนเนื่องจากคู่กรณียินดีให้ทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้คู่กรณีไม่ยอมยุติความสัมพันธ์ เริ่มล้ำเส้นมากเกินไป เริ่มแขวะ แหนบแนมแฟนของจัส เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้จัสตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับคู่กรณี”

แต่ล่าสุด เรื่องก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น หลังจากคู่กรณีของฉลามจัส ได้ออกมาโพสต์โซเชียลโต้กลับถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ตัวเองเป็นแฟนกีฬาของ ฉลามจัส ซึ่งบทสนทนาไม่เคยล้ำเส้น ฉลามจัส พร้อมเหตุผลที่สนิทไวเพราะเป็นหลานเพื่อนของเพื่อนสนิท โดยเผยว่าตนมีหลักฐานทั้งหมด ทั้งแชทและคลิป โดยกล่าวว่า….

ตัวผมขอชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เป็นข่าว ยาวหน่อย แต่ผมว่า ทุกคนต้องใส่ใจให้จบครับ ตามนี้นะครับ

1.จุดเริ่มต้นเริ่มจากไม่ได้สนิทสนมอะไรมากเลย แค่ติดตามเชียร์กีฬา ตัวแทนประเทศไทยตามปกติ น้องก้อมากดติดตามกลับ แล้วมาสนิทกันไวเพราะน้องเป็นหลานของเพื่อนของเพื่อนสนิทผม บทสนทนาผมไม่เคยล้ำ เส้นคุยปกติ แต่น้องเป็นคนเปิดทางมาเอง (มีหลักฐานแชท) จนได้คบกัน

2. วันที่ทราบเรื่องว่าไปคบอีกคน เราคบกันในสถานะคนรักกันมาเดือนกว่าแล้ว วันเกิดเหตุยังมาขอโทษ มาง้อแล้วให้เหตุผลว่าทำไปเพราะแค่คอนเทนต์ ต้องการกระแส ต้องการงานในโซเชียลเพื่อหารายได้ วันนั้นไปเดินห้างกัน กำลังซื้อกกน.กับเสื้อสีแดง brand CK ที่ใช้ในไลน์โปรไฟล์อยู่ เพื่อนส่งคลิปมา เราเลยทะเลาะกันในร้าน หน้าแคชเชียร์เลย (ไปถามพนักงานได้ เพราะเราเสียงดัง) แล้วน้องก็ตามมาง้อถึงในรถเราก็ถามเลยว่า จะเอายังไง เค้าบอกว่าเลือกทางเรา แล้วก็ดูดดื่มตามในคลิป (มีคลิปที่สามารถเล่าเรื่องว่าเป็นแฟนกันได้)

3.ที่ทำบัตรเสริมให้ เพราะตอนเป็นคนรักกัน เรามีแพลนเดินทางกันเยอะมาก ล็อควันหยุด จองทริปต่างๆ ชำระเงินเรียบร้อยทุกทริปเลยสมัครเอาไว้เพื่อความสะดวกให้ใช้เข้าห้องรับรองพิเศษของสนามบิน ทั้งในและต่างประเทศ ตกลงกันไว้แล้วว่าถ้าจะใช้อะไรก็ต้องจ่ายเองนะ จะเรียกว่าให้ด้วยความเสน่หาได้ยังไง แล้วทุกครั้งที่เค้าต้องการของที่มีมูลค่า เค้าจะถ่ายรูปแล้วส่งไปไหนไม่รู้ สักพักก็ได้เงินโอนกลับมา แล้วโอนมาชำระค่าบัตรให้ผม ทุกครั้งที่มีการใช้บัตร (หลักฐานมีพร้อม) มีการทวงตลอดในแชท ทวงหลายครั้งด้วย เพราะตกลงกันแล้วว่าใช้แล้วต้องจ่าย

เขาบอกเสมอว่างานเขาเยอะ รีวิวแป๊ปเดียว ได้งานแล้ว 80,000-100,000 มีเงินจ่ายคืนอยู่แล้ว ไหนจะค่าเหรียญที่ไปแข่งชนะมาด้วย ผมเลยวางใจทำบัตรไว้ให้ส่วนเรื่องไม่พอใจ มันเกิดขึ้นช่วงที่ความแตกใหม่ๆ ว่า น้องไปคบกับอีกคน แล้วที่มาว่าผมพูดแขวะ ทางผมจะพูดจาแขวะ เหน็บแนมคนอื่นได้ยังไงเพราะผมมีปัญหากับจัสคนเดียว ไม่ได้มีปัญหากับบุคคลอื่น ที่น้องบอกอยากยุติความสัมพันธ์ คืนวันที่ 13 ยังไปทานข้าวเฮฮากันอยู่เลยการกระทำมันย้อนแย้งกับที่พิมพ์เหลือเกิน

4.รถยนต์น้องขอซื้อต่อตั้งแต่วันที่ 9 ตุลา คุยกันที่ไอคอนสยาม ตอนนั้นยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนหรือเป็นคนรักกันเลย (มาเริ่มคบหาเป็นคนรักกันหลังจากที่กลับจากญี่ปุ่น ที่น้องบินตามไปหาเรา) ด้วยความไว้ใจว่าเป็นหลานเพื่อน ก็เลยยอมขายให้ในราคา 1.2 ล้าน โดยน้องบอกว่าจะเอาคันเก่าไปขาย แล้วแบ่งเงินมาให้ (ซึ่งก็ไม่แบ่งมาเลย) แล้วก็จะเอาเงินแข่งว่ายน้ำมาให้ครบภายในสิ้นเดือน

มิถุนายนของปีนี้ (แข่งมา 2 แมทช์แล้วไม่ให้เลยสักบาท) เรื่องรถ เดี๋ยวนำเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย เพราะเรามีข้อมูลsupport อยู่ สามารถฟ้องร้องให้เป็นคดีความได้ วันที่ไปขายรถ ยังขับรถที่ขอซื้อต่อไปเลย (ดูในคลิปยูทูปขายรถได้) น้องยังไม่เคยพูดคุยเรื่องรถเลยสักครั้งด้วยว่าจะไม่ซื้อต่อแล้ว

เพราะวันที่ 8 พฤศจิกายน (วันที่เกิดเรื่อง) เราถามแล้วว่า ไปกอด หอม จูบ กันบนรถเลยเหรอ ยังไม่ได้ให้เงินพี่แม้แต่บาทเดียวเลยนะ ทำแบบนี้ได้ยังไง เขาก็บอก ไม่ต้องกังวลจะรีบไปรับงานทำงานหาเงินมาจ่ายค่ารถนะ หลังจากนั้นก็ใช้รถคันดังกล่าวไปรับส่ง ทำคอนเทนต์ต่างๆ นานา มาโดยตลอด เราเลยคิดว่า รถเราขายไปแล้วก็พูดอะไรมากไม่ได้

5. ที่ว่าผมข่มขู่ ไม่รู้ผมจะขู่อะไร ข่มขู่ไปทำไม เพราะไม่มีอะไรให้ขู่ ผมไปไหนเขาไปด้วยเราเจอใครทั้งบังเอิญหรือมีนัด เราก็แนะนำตามปกติ แล้วตอนที่แม่(เลี้ยง)เขามาคุย เคยคุยแค่ครั้งเดียว ซึ่งก็ไม่ได้ใจความหรือข้อสรุปอะไรเลย คุยหลังจากเกิดเรื่อง ไม่กี่วันเราอ่ะยอมจบนะ ตามข้อตกลง แต่ใคร กันแน่ ที่ไม่ยอมจบความสัมพันธ์ตามที่ตกลงไว้ (ถ้าคุณแม่จะมีปัญหากับผม มีภาคขยายอีกหลายเรื่อง สนุกถึงใจ ถึงอารมณ์แน่นอน)

6. ที่ว่า มองผมเป็นแค่ผู้ใหญ่ใจดี บลา ๆ คนไม่มีใจไม่คิดอะะไรแต่ “อุ๊ย”มันได้หรอครับ ข้อนี้ผมขอให้คลิปและแชทต่างๆ เป็นตัวตอบ แทนที่น้องว่ามาครับ

สุดท้ายนี้ ตลอดระยะเวลาที่พูดคุยในความสัมพันธ์ทาง ตัวคู่กรณีเอง ได้มีแฟนที่คบหาดูใจอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ตัวผมไม่เข้าใจในความพยายาม และความ ต้องการของคู่กรณีว่า ต้องการสิ่งใดจากตัวผม

นี่คือสิ่งที่ผมให้เกียรติ และให้ความชัดเจนกับน้อง คือตอนที่มาคบหาเป็นคนรักกัน ผมได้เลิกรากับแฟนเก่าเพื่อ ที่มาตั้งใจคบกับน้องเค้าเลย แล้วโดย ส่วนตัวผม จะแฟนเก่า คนรักเก่า ผัวเก่าหรือสถานะไหนๆ ถึงแม้จะเลิกรากันไปผมก็ยังติดต่อ พูดคุยกันเป็นเพื่อนพี่น้องปกติอยู่แล้วทุกคน อะไรที่ให้ก็ให้

อะไรที่ยืมก็คือยืม อะไรที่ขอซื้อก็ซื้อขายกัน ในบรรดาแฟนหรือคนรักที่เคยคบหากันผ่านมาไม่เคยมีใครไม่ชื่อตรงเลย พอหลังจากเกิดปัญหาว่าน้องคบอีกคน ผมก็ได้พูดคุย ปรึกษา หารือ กับแฟนเก่า คนรักเก่าๆ ผมตลอด

เพราะผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติและน้อง ก้อไม่ได้หึงหวงอะไร คบคือคบ เลิกคือเลิก ยืมคือยืมครับต้องคืน ซื้อขายก็คือซื้อขายต้องจ่าย อย่ามาบิดประเด็นเลยมันย้อนแย้ง

ไม่ใช่ว่าเรารู้กันแค่ 2 คน โกหกหลอกคนทั้งโลกได้ แต่เรา 2 คนหลอกกันเองไม่ได้หรอกครับ

หลังจากนี้ต้องรอติดตามกันต่อไป ว่าจะมีฝ่ายไหนออกมาชี้แจงเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากมีความเคลื่อนไหว ‘อีจัน’ จะแจ้งให้ทราบครับ