ระทึก! หนุ่มคลั่ง ถูกแฟนบอกเลิก บุกกราดยิงเพื่อนบ้าน ก่อนจบชีวิตตัวเอง 

ปทุมธานี ระทึก! หนุ่มคลั่ง พังประตูเพื่อนบ้าน ขึ้นไปกราดยิงถึงชั้น 2 ก่อนจบชีวิตตัวเองคาบ้านเช่า ที่เพิ่งเช่าได้ 4 วัน คาด! เครียดเมียขอเลิก

เกิดเหตุระทึกขึ้นกลางดึกที่ผ่านมา… 

เมื่อเวลา 23.00 น. วานนี้ (15 ม.ค.68) พ.ต.ท.ยศวัจน์ ศรีลาพัฒน์ สารวัตรสอบสวน 

สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนรังสิตนครนายก ต.บึงยีโถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง  

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้น ห้องนอนชั้นสอง เจ้าหน้าที่พบศพ นายสุรชัย อายุ 45 ปี ชาวปทุมธานี สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างที่นอน จมกองเลือดมีหมอนปิดศีรษะไว้พบอาวุธปืนชนิดกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม ตกอยู่ห่างขา มีบาดแผลที่ขมับขวา 1 นัด และกล่องใส่ปืนและกุญแจรถยนต์วางไว้บนที่นอน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.ตกเกลื่อน จำนวน 5 ปลอก  

และหน้าบ้านอีกหลังหนึ่ง พบว่าหน้าประตูถูกยิงและงัดพัง ภายในบ้านชั้นล่างพบหัวกระสุนปืน 1 หัว และปลอก 1 ปลอก บริเวณประตูห้องนอนชั้นสองพบรูกระสุนยิงทะลุประตูไปถูกตู้เสื้อผ้า 2 รู หน้าห้องพบปลอก 2 ปลอก หัวกระสุน 2 อัน และเหล็กถอดน๊อตล้อรถยนต์ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน 

จากการสอบถามนางสาวกรรณิกา อายุ 35 ปี เจ้าของบ้านหลังที่ 2 ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ถูกคนตายคลั่งไล่ยิง ให้การว่า บ้านของตนเองพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน มีตนเอง แฟน และลูกชาย ซึ่งผู้ตายได้มาเช่าบ้านอยู่ข้างบ้านตนเอง ก่อนเกิดเหตุคนตายได้เข้ามาพังบ้านของตนเอง และพังประตูด้านล่างเข้าไปภายในบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนเองยังไม่หลับได้ยินเสียงพังประตูเข้ามา ลูกชายที่อยู่ห้องติดกันได้เปิดประตูวิ่งเข้ามาหาตนเองแล้วบอกว่าแม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งระหว่างนั้นตนเองก็รู้แล้วว่าคนตายได้เข้ามาภายในบ้าน จึงได้เรียกลูกเข้ามาภายในห้องนอนแล้วให้แฟนดันตู้เย็นกับตู้เสื้อผ้ามาปิดกั้นประตูห้องนอนไว้ 

จากนั้น คนตายได้เดินขึ้นมาบริเวณชั้นสอง แล้วยิงปืนใส่ประตูจนทะลุประตูเข้ามาจำนวน 4 นัด ตนเองจึงได้โทรหาป้าเจ้าของบ้านเช่าว่าให้ช่วยเหลือเพราะว่าคนตายพังประตูเข้ามาภายในบ้านแล้วก็ยิงใส่ 

ซึ่งคนที่บุกเข้ามายิงภายในบ้านตนเองนั้น เขาเพิ่งมาเช่าบ้านอยู่ข้างข้างได้ไม่กี่วันซึ่งหลังจากที่ยิงใส่ห้องตนเองจำนวน 4 นัด ตนเองได้โทรหาป้าเจ้าของบ้านอีกรอบโดยป้าบอกว่าชายคนดังกล่าวได้ลงมาจากบ้านและเดินขึ้นไปที่บ้านของเขาแล้ว ซึ่งลุงกับป้าเจ้าของบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดจากห้องเขาแล้วทุกอย่างก็เงียบไปเลย  

นางสาวกรรณิกา เล่าต่อว่า ตนเองไม่เคยรู้จักคนตายมาก่อน แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คนตายได้เดินมาหาที่บ้านพร้อมกับยกมือไหว้แล้วบอกกับตนเองว่า ผมขอโทษนะครับที่บ้านเสียงดังเดี๋ยวผมจะซื้อกระเช้ามาไหว้ ซึ่งเราก็ตกใจ จึงได้บอกไปว่าไม่มีไม่เป็นไร เพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีเสียงอะไรผิดปกติ 

ด้านนางทองตัน อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านเช่า บอกว่า คนตายเข้ามาเช่าบ้านตนเองเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองก็ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน บ้านหลังนี้ติดป้ายให้เช่าอยู่แล้วคนตายก็ติดต่อเข้ามาซึ่งตอนที่เข้ามาก็มาคนเดียว พฤติกรรมทั่วไปตอนที่เข้ามาก็ดูเป็นคนนิสัยดี แต่คนตายบอกกับตนเองว่า เขาเครียดมากเลยเขาเลิกกับแฟนและยกทรัพย์สินให้ เขาต้องมาอยู่คนเดียว ต้องทำใจให้ได้ ต้องอยู่ให้ได้ โดยคนตายบอกว่าเขาเป็นเซลล์ขายยาง  

หลังจากที่เขามาอยู่ ตนเองก็จะคุยผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ มีอยู่ครั้งหนึ่งคนตายไลน์มาบอกว่า ป้าผมขึ้นไปนอนข้างบนผมเปิดทีวีผมเกรงใจข้างบ้านก็เลยบอกว่า ผมจะปรับตัวใหม่เพราะเดี๋ยวข้างบ้านเขารำคาญ ป้าก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไร ถ้ารำคาญเขาก็ต้องมาบอกป้าเองไม่เป็นไร เราก็บอกไปแบบนี้ พอมาวันนี้คนตายเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านแล้วก็คุยเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าเช่าบ้านว่าจะมีการจ่ายก่อนเพราะว่าได้รับเงินมา ซึ่งตั้งแต่ที่คนตายมาอยู่ก็มีเพื่อนมาหาแค่คนเดียว อุ้มเด็กน้อยมาด้วย  

จนมาถึงวันนี้ ตอนที่เอาปืนออกมายิง ป้าก็นอนหลับไปแล้ว ข้างบ้านโทรมาเรียกจึงได้ปลุกแฟนลงมาดู ก็พบว่าเขายืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน เราก็พยายามเรียกออกมาเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรครับป้าก็เดินวนเวียนอยู่บริเวณบ้านข้างๆ ก่อนที่จะยิงที่ประตูแล้วก็ขึ้นไปชั้นสอง ซึ่งตนเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ซึ่งป้าก็ได้ตะโกนเตือนไปว่า อย่าไปยุ่งบ้านเขา ซึ่งคนตายนก็ตอบมาว่า ไม่เป็นไรครับป้าเดี๋ยวผมจัดการเอง พอคนตายเดินออกมาแฟนป้าก็ได้เดินไปจับแขน เขาบอกว่าลุงไม่ต้องยุ่งกับผม 

จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดแล้วก็เงียบไปเลย ตนเองจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ นางทองตัน กล่าว 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งเก็บรวบรวมปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนและอาวุธปืนที่ผู้ตายที่ใช้ก่อเหตุนำตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไป 

ก่อนมอบศพให้อาสาสมัครมูลนิธิฯ นำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตาย พร้อมทำการติดต่อญาติผู้ตาย เพื่อมาทำการสอบสวนถึงสาเหตุที่ก่อเหตุระทึก และจะได้ประสานทางญาติๆ มารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป