อย่าเพิ่งหมดหวัง ! ผู้ว่าฯ ชัชชาติย้ำ เดินหน้าช่วยเหลือเต็มกำลัง เหตุแผ่นดินไหว กทม.

เข้าสู่ 48 ชั่วโมงหลังเหตุแผ่นดินไหว สะเทือนกรุงเทพฯ ด้านผู้ว่าฯ ชัชชาติ แถลง ขณะนี้เดินหน้าเต็มกำลัง และได้รับความช่วยเหลือจากหลายประเทศ ขอประชาชนอย่าเพิ่งหมดหวัง

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ แถลง เหตุแผ่นดินไหวสะเทือน กทม. ขอประชาชนอย่าเพิ่งหมดหวัง เจ้าหน้าที่เร่งเนหน้าเต็มกำลัง กู้ชีพตึกถล่ม พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้

วันนี้ 30 มี.ค.68 เป็นเวลา 48 ชั่วโมงแล้ว ของการเกิดเหตุแผ่นดินไหว สะเทือนหลายจุดทั่วไทย รวมถึงกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้เกิดเหตุตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ถล่มลงมาทับคนงานหลายสิบชีวิต

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ประเด็นแรกที่ต้องให้ความสำคัญในขณะนี้ คือเรื่องการกู้ภัยอาคารถล่มเขตจตุจักร ซึ่งกระบวนการยังเป็นการค้นหาผู้รอดชีวิต วันนี้ครบวันที่ 2 หรือ 48 ชั่วโมงแล้ว โดยเมื่อเช้านี้มีสัญญาณชีพบริเวณโซน A จะเร่งดำเนินการค้นหาผู้ที่ยังมีสัญญาณชีพต่อไป ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนโดยผู้ที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญให้คำแนะนำอยู่ในพื้นที่ และเมื่อเช้ามีการพบศพเพิ่มเติม ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตคงต้องรอยืนยัน

“สถานการณ์ คือ เราเดินหน้าเต็มที่และเต็มกำลัง และยังมีความช่วยเหลือจากหลายประเทศเข้ามา อาทิ สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศอิสราเอล ที่จะส่งเครื่องมือมาช่วยเหลือเพิ่มเติม กทม. ได้ประสานหน้างานเพื่อแบ่งพื้นที่ในการช่วยเหลือค้นหาผู้รอดชีวิต กู้ชีพ กู้ภัย ซึ่งยังไม่หมดหวังและขอยืนยันว่าทำเต็มที่ เพราะเชื่อว่ายังมีโอกาสที่จะเจอผู้รอดชีวิตอยู่ด้านใน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เน้นย้ำ

ซึ่งอุปสรรคที่อาจจะเจอวันนี้ คือ มีโอกาสที่ฝนจะตก 60% จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งได้พูดคุยกับผู้อำนวยการเหตุการณ์ที่อยู่หน้างานแล้ว ว่าไม่ได้มีผลกระทบกับการกู้ภัย เพราะอาคารต่าง ๆ ยังยึดโยงกันอยู่ด้วยเหล็ก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องของการระบายน้ำจากอาคารซึ่งได้รับผลกระทบจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจายตอนถล่มลงมาสู่ท่อระบายน้ำอาจทำให้ท่ออุดตัน ก็ต้องเร่งดำเนินการให้น้ำสามารถระบายได้ ขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มที่ และมีอุปกรณ์ครบถ้วน

ในส่วนเรื่องการเดินทางและการสัญจรบริเวณทางด่วนดินแดงยังมีเครนห้อยอยู่ ซึ่งได้บัญชาการให้มีการรื้อย้ายสำเร็จไปแล้ว 80% โดยวันนี้จะมีการประชุมอีกครั้งในเวลา 10.00 น. ว่าพรุ่งนี้จะสามารถเปิดการจราจรได้ปกติหรือไม่และจะยืนยันในเวลาประมาณ 12.00 น. ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการได้วันนี้ประมาณ 12.00 น. แต่สายสีชมพูที่อยู่แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา คงต้องเปิดให้บริการพรุ่งนี้ เนื่องจากต้องตรวจเรื่องสัญญาณต่าง ๆ ให้แน่ใจอีกที ซึ่งไม่กังวลมากเพราะว่าสายสีชมพูเป็นเหมือน Feeder ที่ยังมีการสัญจรอื่นทดแทนได้ เช่น รถตู้ วินมอเตอร์ไซต์

ส่วนแผนรองรับหากทางด่วนดินแดงไม่สามารถเปิดใช้งานได้ในวันจันทร์นั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งหากเปิดใช้งานไม่ได้จริง ๆ อาจจะขอความร่วมมือและแนะนำให้บริษัทต่าง ๆ ประกาศให้ Work From Home เนื่องจากทางด่วนดินแดงเหมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่คนกรุงเทพฯ ใช้สัญจรไปทางด้านเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบกับถนนวิภาวดีรังสิตด้วย

ประเด็นเรื่องความมั่นคงของตัวอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้มีประชาชนแจ้งเข้ามาผ่าน Traffy Fondue ประมาณ 9,500 เรื่อง โดยทีมงานได้ประเมินสถานการณ์กันทั้งคืนว่าตึกใดมีความเสียหายหนักบ้าง โดยวันนี้จะส่งทีมวิศวกรอาสาเข้าไปตรวจกว่า 100 อาคาร แบ่งเป็น 20 ทีม โดยเป็นหน้าที่ของเจ้าของอาคารด้วยที่ต้องร่วมตรวจสอบเนื่องจากเป็นความรับผิดชอบที่ต้องมีการตรวจสอบประจำปีอยู่แล้ว โดยเมื่อวานได้มีคำสั่งให้เจ้าของอาคารตรวจสอบอาคารของตนอีกครั้งเพื่อเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ไปช่วยตรวจสอบเสริมด้วย ด้านการเยียวยาผู้เสียหาย รัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณเมื่อวานนี้ ส่วนขั้นตอนจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายอย่างไร โดยจะเร่งประกาศหลักเกณฑ์ให้เร็วที่สุดด้วยความรอบคอบ ให้เป็นไปตามกฎระเบียบและกฎหมายที่กำหนด ซึ่งเบื้องต้นเป็นเงินประมาณ 200 ล้านบาท ที่อาจเป็นการรวมค่าใช้จ่ายในการค้นหาและกู้ภัยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ด้วย