
วันนี้ (14 มี.ค. 68) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อัยการ และแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยภายหลังเข้าจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ที่เกิดขึ้นในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 68 เวลา 20.50 น.

โดย พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่า การจำลองเหตุการณ์วันนี้ยืนยันว่าทำตามลำดับขั้นตอนเสมือนวันเกิดเหตุที่มีการบันทึกเป็นรายงาน และสอดคล้องกับคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด
การจบชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ เจ้าหน้าที่ได้เลือกใช้หุ่นจำลองที่มีลักษณะตรงกับผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าจากการจำลองเจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่าอดีตผู้กำกับโจ้สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว ในการใช้ผ้าขนหนูมัดคอกับลูกกรง
ส่วนเงื่อนไขห้วงเวลาการจำลอง ที่ทำในช่วงกลางวัน ต่างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อผลการจำลอง และการพิจารณาของคณะกรรมการการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิต พ.ต.อ. ธิติสรรค์ และกำหนดต้องเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบภายใน 30 วัน

ส่วนกรณีเงื่อนหรือปมของผ้าที่ผูกไว้กับลูกกรง พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวว่า ตนเองได้ตรวจดูที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ฉะนั้นการจำลองวันนี้จึงทำให้เหมือนกับในวันจริงมากที่สุด แต่รายละเอียดยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าเป็นการผูกเงื่อนลักษณะใด ส่วนรอยเลือดที่ปรากฏใกล้ที่เกิดเหตุ และรอยบาดแผลจากการถูกสัตว์ขนาดเล็กกัดแทะ โดยขณะนี้อยู่ในสำนวนการสอบสวนยังไม่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด
อย่างไรก็ตาม เรื่องคลิปเสียงการสนทนาระหว่างอดีตผู้กำกับโจ้กับครอบครัว ก่อนเกิดเหตุเสียชีวิต กับการพิจารณาภาพวงจรปิดไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการชุดนี้เป็นในส่วนของคดีอาญาที่มีการดำเนินไปตามกระบวนการอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้ความสนใจในคดีอื่นเช่นเดียวกันไม่ใช่เฉพาะเพียงคดีนี้ที่มีการระดมหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลตรวจสอบ

ขณะที่ นางสาวชลธิชา ศุภรัตน์วนิชย์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 4 กล่าวว่า พนักงานอัยการมาร่วมการจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ กับอีก 3หน่วยงาน ขณะนี้ยืนยันว่าข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ อธิบดีการสอบสวนจะเป็นผู้ให้ข้อมูลในท้ายสุด ยืนยันว่าคณะกรรมการชุดนี้เกี่ยวข้องเฉพาะคดีการชันสูตรพลิกศพซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่พนักงานอัยการต้องร่วมงานกับพนักงานสอบสวน