กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตต้องจับตามอง เมื่อ “อดีตพระมหาสมปอง” ออกมาโพสต์ร่ายยาวในเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดใจถึงการวางตัวของตนเอง ว่าตั้งแต่สึกมาเป็นฆราวาส ได้ 3 ปี ที่ผ่านมา ต้องวางตัวให้เหมาะสม ทำทุกอย่างแบบฝืนธรรมชาติ เพราะภาพจำตอนบวชเป็นพระ ทำให้ต้องทนวางตัวให้ดี ที่ผ่านมาเก็บกด และเก็บตัวมาตลอด โดยในโพสต์ ระบุว่า
อดีตเราเคยเป็นพระเคยสอนคน เคยอบรมต่างๆ มันเป็นภาพจำที่ไม่สามารถทำให้อาจารย์ใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองเป็น ปกติแล้ว อาจารย์เป็นคนเฮฮาร่าเริงแจ่มใส ตามลักษณะของสังคมมาตลอด จนบางทีแม้แสดงความคิดเห็นไปในสังคมอาจจะใช้วาจาที่ฮาไปบ้าง แต่ถูกสังคมติเตียนว่าไม่เหมาะสม ”ซึ่งก็งงมาตลอดว่า“ สรุปเราเป็นพระ หรือสึกมาเป็นฆราวาส
สามปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นฆราวาส แต่อาจารย์ก็เก็บตัวมาโดยตลอดเพราะคิดว่าใจตัวเองนั้นเป็นพระ กลัวโดนติเตียนจากทางโลก จนกระทั่งตัวเองเป็นทุกข์และเป็นซึมเศร้า ไม่อยากพบปะเจอใคร พอมาวันนี้รู้สึกว่า
ตัวเองควรจะแคร์ความรู้สึกของตัวเอง และทำให้ตัวเองมีความสุข เพราะตัวเองไม่ไช่เป็นพระ ไม่ได้รักษาศีล
และที่สำคัญไม่ได้ให้ใครเคารพนับถือเหมือนที่เป็นบรรพชิตที่ผ่านมา
อาจารย์จึงได้รับคำปรึกษาจากน้องคนหนึ่ง ซึ่งเป็นน้องที่มีความสามารถช่วยเหลือสังคมมาตลอด ที่สำคัญเป็น มหารุ่นน้อง นั่นคือ ”ซองดูฮี“ (ศุกล เครือเสน) ให้คำชี้แนะว่าพี่สมปองควรเป็นแบบที่พี่สมปองเป็น และไม่ต้องฝืนธรรมชาติ และไม่ต้องฝืนตัวเอง
จึงขอเรียนพี่ๆน้องๆ ทุกท่านว่า หากต่อไปนี้ ”พี่สมปอง“ จะใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็น โดยไม่ต้องกดดันจากใครต่อใครหลายๆคน สมปองขอได้ไหม หากทุกท่านชอบ สมปองคือสมปอง ”ไม่ใช่สมมติ“
ซึ่งในโพสต์นี้ ชาวเน็ตหลายคน ก็เข้ามาให้กำลังใจพร้อมซัพพอร์ตอยู่เสมอ
ด้าน อดีตพระมหาสมปองเอง ก็ได้เปิดตัวตนต่อโซเชียลมากขึ้น โพสต์สิ่งที่มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง ให้ชาวเน็ตได้คอยติดตามค่ะ