“พระชินวงศวชิรเวที” พระราชาคณะพรรษาน้อยที่สุด อายุ ๓๔ พรรษา ๗

“พระชินวงศวชิรเวที” พระราชาคณะสามัญพรรษาน้อยที่สุด อายุ ๓๔ พรรษา ๗ ดีกรีปริญญาโทจากฮาร์วาร์ด สอบผ่านเปรียญธรรม ๗

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระบาทสมเด็จวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญ จำนวน 8 รูป ซึ่งมี 1 รูป ที่ได้รับการพูดถึงในโลกออนไลน์คือ “พระครูสุตตาภิรม” (เตชินท์) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพฯ  

“พระชินวงศวชิรเวที” นามเดิม เตชินท์ จุลเทศ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๓ เป็นบุตรของนายเลอศักดิ์ จุลเทศ อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และนางศิริพร จุลเทศ 

สำเร็จการศึกษา

สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ ๖๘  

ขณะศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ท่านมีความสนใจด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ได้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันเคมีโอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ณ สหพันธรัฐรัสเซีย และประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ณ ประเทศฮังการี ได้รับรางวัลเหรียญเงิน 

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑ สอบได้ลำดับที่ ๑ แผนกวิทยาศาสตร์ ได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวง (King’s Scholarship) ไปศึกษาต่อต่างประเทศ 

สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี (A.B.) สาขาเศรษฐศาสตร์และสถิติ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา และสำเร็จการศึกษาปริญญาโท (S.M.) สาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์และเศรษฐศาสตร์ เมื่อ พ.ศ ๒๕๕๖ 

ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๖ – พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ทำงานในภาคเอกชน 

ต่อมาได้อุปสมบทขณะอายุได้ ๒๗ ปี เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ณ มหาพัทธสีมา วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมี เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อคฺคชินเถร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 

ในการศึกษาพระปริยัติธรรมสอบได้เปรียญธรรม ๗ ประโยคเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๗ และทรงจำพระปาฏิโมกข์ โดยได้รับพระอนุญาตให้แสดงพระปาฏิโมกข์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๒ 

ได้ปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๒ ดำรงแหน่ง ผู้ช่วยอธิการบดี และต่อมาดำรงตำแหน่ง รองอธิการบดี ด้านแผนพัฒนาและพันธกิจสากล ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๖ นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งเลขานุการสภามหาวิทยาลัยอีกด้วย 

ได้รับประทานพระกรุณาให้สนองงานในเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โดยเฉพาะด้านการต่างประเทศในหลายโอกาส

สมณศักดิ์ 

๒๒ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นพระครูฐานานุกรมชั้นเอก ในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ พระครูสุตตาภิรม 

๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระชินวงศวชิรเวที 

ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อ “พระชินวงศวชิรเวที” ระบุความว่า

เมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีที่แล้ว ขณะที่ผมรับราชการในหน้าที่เลขาธิการสภาการศึกษา ประเด็นหนึ่งที่วงการการศึกษาให้ความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่เรื่องการศึกษาแนว Liberal Arts ซึ่งเมืองไทยไม่คุ้นเคย พอดีโอกาสนั้นสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ทรงมีกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงประชุมเรื่องการศึกษาที่สหรัฐอเมริกา และจะได้ทรงดูงานโรงเรียนมัธยมชั้นยอดของประเทศนั้นที่จัดการศึกษาแนวนี้ด้วย ผมจึงได้เดินทางไปเข้าประชุมในฐานะผู้แทนฝ่ายไทยคนหนึ่ง และได้มีโอกาสตามเสด็จเพื่อไปชมกิจการของโรงเรียนดังกล่าว ที่โรงเรียนมัธยม Choate Rosemary Hall ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ผมได้พบกับนักเรียนไทยคนหนึ่ง ชื่อเตชินท์ ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงไปเรียนหนังสืออยู่ที่นั่น ก่อนที่จะเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป เราได้ทักทายและพูดคุยกันตามสมควรเท่าที่เวลาและโอกาสจะอำนวย

ไม่น่าเชื่อที่อีกหลายปีต่อมา ผมได้พบนักเรียนคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ท่านอยู่ในภิกขุภาวะแล้ว ได้ความว่าหลังท่านเรียนจบชั้นมัธยมจากโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ท่านได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดจนสำเร็จการศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท จากนั้นได้กลับมาทำงานอยู่ในภาคเอกชนอยู่ระยะหนึ่ง แล้วตัดสินใจเข้าบรรพชาอุปสมบทที่วัดราชบพิธเมื่อเจ็ดปีก่อน ท่านได้อุตสาหเล่าเรียนและเข้าสอบเปรียญธรรมจนได้เปรียญเจ็ดประโยค โดยไม่เคยสอบตกหล่นเลยสักปีเดียว

นอกจากในเรื่องการศึกษาตามขนบของคณะสงฆ์ข้างต้นแล้ว พระมหาเตชินท์ ได้สนองงานคณะสงฆ์ในหน้าที่รองอธิการบดีด้านแผนพัฒนาและพันธกิจสากล มหาวิทยาลัยมกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ของฝ่ายธรรมยุต ความรู้ความสามารถทั้งฝ่ายคดีโลกคดีธรรมและประสบการณ์ที่ท่านเคยเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศมาแล้ว ย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำหน้าที่ผู้บริหารการศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ของบ้านเรา ผมซึ่งเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยแห่งนี้อยู่ ไม่มีความสงสัยข้อใดในผลงานและฝีมือด้านนี้ของพระมหาเตชินท์

ในส่วนการของพระอาราม วัดราชบพิธ ท่านก็ได้สนองงานในด้านต่างๆอย่างเต็มกำลัง ยกตัวอย่างเช่นเมื่อครั้งที่รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นางกมลา แฮริส เดินทางมาร่วมประชุมเอเปกในประเทศไทย และมีกำหนดการเข้าเฝ้าเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช พระมหาเตชินท์ เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในคณะทำงานเตรียมการ ได้ประสานงานกับหน่วยงานทั้งฝ่ายไทยและอเมริกาด้วยความเรียบร้อย และได้ติดตามเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ พร้อมกันกับผม นำรองประธานาธิบดีกมลา ฯ ชมพระอาราม ซึ่งเชื่อได้แน่ว่าแขกคนสำคัญจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และได้สนทนาประเด็นหลากหลายที่น่าสนใจด้วยความอภิรมย์

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พระมหาเตชินท์ได้รับพระกรุณาในเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดแต่งตั้งให้เป็นพระครูสุตตาภิรม ตำแหน่งฐานานุกรมในพระองค์ และบ่ายวันนี้ ระหว่างที่ผมร่วมประชุมสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยด้วยระบบออนไลน์อยู่นั้น ได้ทราบว่าราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสมณศักดิ์ ให้พระครูสุตตาภิรม เตชินท์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระชินวงศวชิรเวที พร้อมกับพระราชาคณะที่เป็นผู้บริหารของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์อีกหลายรูป

ขอน้อมถวายมุทิตาสักการะด้วยความปีติยินดี และเชื่อมั่นว่าท่านเจ้าคุณจะมีความงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนา และทำประโยชน์ต่อไปในวันข้างหน้าได้อีกมาก

ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา , เฟซบุ๊ก Tongthong Chandransu