จากกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ อายุ 43 ปี ในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหายาเสพติด เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 68 เวลา 20.50 น. โดยในขณะเดียวกัน ทางครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้ ยังติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (14 มี.ค. 68) พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้เดินทางเข้าไปภายในเรือนจำ เพื่อจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้
พล.ต.ต.วาที เปิดเผยว่า ชุดคลี่คลายคดีที่มี พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้ามาจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 68
โดยในวันนี้พนักงานสอบสวน ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับการจำลองเหตุการณ์ เช่น ผ้าขนหนูความยาว 1.12 เมตร เพื่อจำลองที่ห้องขังหมายเลข 50 ที่อดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิต แต่ทางกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) เห็นว่า ควรใช้หุ่นจำลองมากกว่า ซึ่งต้องเข้าไปพูดคุยกันอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า วันนี้มีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้คนหรือหุ่นจำลองเหตุการณ์ โดยจะมีการพิสูจน์ว่าการผูกคอในห้องขังมีความเป็นไปได้หรือไม่ และเป็นสาเหตุทำให้อดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิตหรือไม่
ส่วนหุ่นคนจำลอง จะต้องเป็นรูปร่างเดียวกับผู้เสียชีวิต ทั้งส่วนสูง น้ำหนัก รูปร่าง เพราะจะมีผลกับการทิ้งตัวลงมาเมื่อใช้ผ้าขนหนูผูกกับลูกกรง
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว ได้รับการกำกับมาจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ว่าเป็นคดีสำคัญและเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงต้องทำให้สิ้นความสงสัย ทั้งนี้หลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุทางกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ยืนยันว่า ได้เก็บรวมไปอย่างเรียบร้อย ตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้าพื้นที่แล้วมีความสมบูรณ์มากที่สุด
ในส่วนของผลตรวจสอบผ้าขนหนู ได้ส่งให้พนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว โดย DNA ในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติ และไม่มี DNA บุคคลอื่นยุ่งเกี่ยวในที่เกิดเหตุ ซึ่งผลค่อนข้างมีความชัดเจน
ส่วนไฟล์เสียงการสนทนากับครอบครัวก่อนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้รับจากเรือนจำ โดยได้รับเพียงวงจรปิดตัวสมบูรณ์ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติม โดยขั้นตอนเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการคัดลอกคลิป เพื่อไม่ให้เวลาดึงออกมาตรวจสอบแล้วเกิดความเสียหายกับต้นฉบับ