
ภัยอันตรายเกิดขึ้นได้กับทุกอาชีพ โดยเฉพาะแดนเซอร์ที่ต้องคอยสร้างความสุขให้กับผู้ชมจำนวนมาก
จากกรณีวานนี้ (4 มี.ค. 68) ที่ “บอย ศิริชัย” หัวหน้าคณะหมอลำใจเกินร้อย ได้ออกมาอัดวิดีโอชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 มี.ค. 68 ระหว่างทำการแสดงที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ระหาน อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร โดยแดนเซอร์รายหนึ่งเกิดอาการช็อก พร้อมอาการชาก่อนหมดสติ ภายหลังดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ที่ได้รับหน้าเวทีจากผู้ชมพร้อมกับทิปจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้รีบนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ก่อนแพทย์จะแจ้งว่า ภายในร่างกายแดนเซอร์รายนี้นั้นถูกตรวจพบสารผิดปกติบางอย่าง

จากนั้น “บอย ศิริชัย” ได้มีการพูดคุยสอบถามกับสมาชิกในวง จนทราบว่าแดนเซอร์รายนี้ได้รับทิปแบงค์พันพร้อมดื่มแก้วแอลกอฮอล์ ก่อนเกิดภาวะช็อก เหงื่อไหลและหมดสติหลังจากลงเวที โดยช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 05.00 น.ซึ่งเป็นเวลาใกล้จบการแสดงแล้ว

ต่อมา (4 มี.ค. 68) ทางวัดผู้จัดงาน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ภายหลังพระมหาอภิชาติ เจ้าอาวาสฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการวัด เข้าเยี่ยมตัวแดนเซอร์รายดังกล่าว พร้อมขออภัยต่อเหตุการณที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าหลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขันให้มากที่สุด รวมทั้งในขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ หากพบผู้กระทำผิดจะนำมาลงโทษตามกฏหมายต่อไป พร้อมกล่าวประณามถึงตัวผู้ก่อเหตุที่นำความเสื่อมเสียมาสู่ชาวกำแพงเพชร
และจากนั้นไม่นานทางวัดโพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมคาดว่าเป็นรายละเอียดของตัวผู้ก่อเหตุ โพสต์ระบุว่า “LGBTQ วัยประมาณ 35 ปี เสื้อสีขาว เวลา 05.27 น.”

ในวันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “คณะหมอลำใจเกินร้อย” ได้เปิดเผยอาการล่าสุดของ “ปอนด์” แดนเซอร์ผู้เคราะห์ร้าย ระบุดังนี้
ตอนนี้น้องปอนด์ วรายุทธ แดนซ์เซอร์ที่ช็อคจากการรับดื่มหน้าเวที อาการดีขึ้นนะครับ แต่คุณหมอโรงพยาบาลกำแพงเพชร ยังให้รักษาตัวต่อถึงวันที่ 6 ซึ่งสรุปสารที่ถูกผสมมากับเครื่องดื่มนั้น เป็นสาร “ปลุกเซ็กส์” และมีปริมาณเกินกว่าร่างกายสามารถรับได้จึงทำให้เกิด effect ดังกล่าว ฝากเป็นบทเรียนสำหรับคนที่ทำงานอาชีพอย่างพวกเราต้องระมัดระวัง คนเรารู้หน้ารู้ใจ ดูหน้าดูหลัง เข้าใจว่าอยากได้รางวัลแต่มันเสี่ยงต่อสุขภาพซึ่งเราทำงานทุกวันเดินทางทุกวันอากาศก็ร้อนลำพังเฉพาะแอลกอฮอล์ก็ทำลายสุขภาพมากพอแล้ว และในกรณีนี้ที่ใส่สารอันตรายมาอีกยิ่งหนักไปกันใหญ่ ยังดีที่กรณีของน้องปอนด์ส่งตัวเข้ารักษาได้ทัน ถ้าเกิดว่าเกิดความเสียหายหรืออันตรายถึงแก่ชีวิต จะรับผิดชอบกันยังไง..แล้วก็ขอวอนไปถึงบุคคล ที่ใส่สารอันตรายให้น้องในวันนั้นนะครับอย่าไปทำกับใครอีก.. ถ้าไม่มีสิ่งที่ดีงามมอบให้หรือรางวัลสิ่งใดให้กันก็อย่านำสิ่งที่มันจะก่อให้เกิดอันตรายแบบนั้นให้กันอีกนะครับโดยเฉพาะน้องๆแดนซ์เซอร์เค้าก็หาเช้ากินค่ำ อย่างน้องปอนด์นั้นก็ต้องเสียงาน เสียสุขภาพ เสียขวัญและกำลังใจ…

นับเป็นหนึ่งอุทาหรณ์เตือนภัยอาชีพแดนเซอร์ ให้ระมัดระวังการรับเครื่องดื่มจากผู้ชมแปลกหน้า อาจเกิดความอันตรายต่อชีวิตได้
ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก บอย ศิริชัย หมอลำใจเกินร้อย , เฟซบุ๊ก คณะหมอลำใจเกินร้อย
ควาบคืบหน้าล่าสุด (5 มี.ค. 68) รายงานระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมรอสอบปากคำจากแดนเซอร์ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะออกจากโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิด เพื่อไล่เช็กไทม์ไลน์ผู้ก่อเหตุอย่างละเอียด ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในไม่ช้า
ขณะเดียวกัน “พระมหาอภิชาติ กิตติวรัญญู” เจ้าอาวาสฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ระบุว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางวัดไม่ได้นิ่งนอนใจได้เปิดกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าใครเป็นคนก่อเหตุ ซึ่งพอจะทราบบ้างแล้วแต่ยังระบุใบหน้าไม่ได้ และเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจในพื้นที่ ซึ่งทราบดีอยู่แล้วว่าการดื่มสุราในวัดผิดกฎหมาย ซึ่งวัดมีกฎระเบียบเคร่งครัดในเรื่องการไม่จำหน่ายแอลกอฮอล์ และตรวจค้นขณะเข้ามาร่วมงานในวัดอย่างเด็ดขาด ซึ่งร้านรอบวัดก็ยังมีการจำหน่าย ทำให้เล็ดลอดสายตาเข้ามาได้ โดยวัดเป็นสายวัฒนธรรม ไม่เคยมีเรื่องราวเสื่อมเสียแบบนี้มาก่อน ซึ่งบางครั้งหากห้ามเรื่องดื่มเหล้าเลยชาวบ้านก็จะต่อว่าเจ้าอาวาสได้ว่าไม่เห็นแก่ชาวบ้าน ซึ่งหากใครที่มาเที่ยววัดแล้ว อยากให้มาสร้าง
พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ “ปอนด์ วรายุทธ” แดนเซอร์หนุ่มคณะหมอลำใจเกินร้อย ที่พักรักษาตัวอยู่ โดยปอนด์ เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณตี 1 ตนพร้อมแดนซ์เซอร์ในวงได้ออกไปทำการแสดงตามปกติ จากนั้นก็ได้สลับไปอีกฝั่งของเวที ก่อนจะมีชายลักษณะคล้าย LGBTQ+ ได้เดินถือแม็กซ์มาลัย พร้อมแก้วเหล้ามาให้ตนดื่ม เมื่อตนดื่มเข้าไปก็มีอาการหนาวสั่น ปวดหัว เริ่มตัวชา จากนั้นก็ลงไปพัก โดยถอดชุดออกแล้วนอนห่มผ้า ทั้ง ๆ ที่วันงานอากาศร้อนมาก จากนั้นก็ขึ้นไปอีกครั้งและเริ่มมีอาการเบลอ ก่อนจะมีคนนำส่งโรงพยาบาลแพทย์ และได้ทำการรักษาทันที
โดยตนยอมรับว่า รู้สึกโกรธหลังทราบว่าถูกใส่ยาปลุกเซ็กส์เข้าไป เพราะมันทำให้เราเสียงานเสียเวลา ทั้ง ๆ ที่เราก็มาทำมาหากินของเรา อยากบอกว่า อาชีพอย่างพวกผม หาเช้ากินค่ำ อย่ามาทำกันแบบนี้ ขอให้เกิดกับตนเป็นเคสตัวอย่างพอแล้ว
ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังแพทย์ที่ให้การรักษา แพทย์ได้ให้ข้อมูลหลังจากรับช่วงต่อจากโรงพยาบาลต้นทางว่า คนไข้มาถึงโรงพยาบาลรู้สึกตัวดี แต่มีไข้ แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายปกติ ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายไม่พบสารเสพติด แพทย์ได้ทำการรักษาภาวะติดเชื้อในร่างกาย ขณะนี้อาการดีขึ้นไม่มีไข้แล้ว
ขอให้ ‘ปอนด์’ กลับมาแข็งแรง และโชว์ผลงานให้แฟนคลับได้ในเร็ววันนะครับ