
วันที่ 20 มีนาคม 2565 เฟสบุ๊ค ไทยคู่ฟ้า ได้โพสต์ แนวทางการแก้ไขปัญหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะการสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกลวง
โดยล่าสุด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำหนดแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ โดยกำชับผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศทั้ง 6 ราย ดำเนินการช่วยทำให้ประชาชนแยกแยะได้ว่า สายที่โทรเข้ามาเป็นสายที่โทรมาจากต่างประเทศ จะได้ไม่เผลอรับสายที่อาจเป็นสายจากแก๊ง Call Center ที่โทรศัพท์มาหลอกลวง โดยใช้ 4 มาตรการ ดังนี้
ตัดสายโทรเข้าจากต่างประเทศที่เป็นเบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์สั้น 3 หลัก หรือ 4 หลัก ที่โทรเข้ามาในประเทศไทย
ระงับเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นรหัสโทรศัพท์ประจำประเทศ ที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ยังไม่ได้เปิดใช้งานจริง
ตรวจสอบสายโทรจากต่างประเทศที่ผิดกฎหมายว่ามีการดัดแปลงเลขหมายหรือไม่
กรณีสายโทรเข้าจากต่างประเทศไม่ได้กำหนดเลขหมายต้นทาง ให้เพิ่มเครื่องหมาย +66 นำหน้าเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ประชาชนทราบว่าเป็นการโทรเข้ามาจากต่างประเทศ

หมายเหตุ : ผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศทั้ง 6 ราย ได้แก่ บริษัท เอไอเอ็น โกลบอลคอม จำกัด/บริษัท ดีแท็ค ไตรเน็ต จำกัด/ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ท จำกัด/ บริษัท โอทาโร่ เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด/ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)