![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1738905353_931584-ejan-768x402.jpg)
จากประเด็นการเสียชีวิตของ “เหลียง โหยวเฉิง” นักแสดงชายชาวจีน ที่ป่วยด้วยอาการไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสร้างความตกใจต่อคนไทย พร้อมมีการถกเถียงถึงการฉีดวัคซีนป้องกัน ล่าสุดหมอยงได้ออกมาโพสต์ถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมแนะช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการฉีดวัคซีนของคนไทย
วันนี้ (7 ก.พ.68) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า โดยปกติ “ไข้หวัดใหญ่” ในประเทศไทย จะระบาดหนักช่วงฤดูฝน (กลางเดือน พ.ค.-ต.ค.) รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ไม่ได้ป้องกันโรคได้สูง แต่ลดความรุนแรงของโรคได้ พร้อมแนะช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการฉีดวัคซีนคือช่วงปลายเดือนมีนาคม เพราะจะได้วัคซีนที่ตรงสายพันธุ์กว่า
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1738904242_023830-ejan-1024x685.jpg)
โพสต์ระบุว่า
หลังจากที่มีดาราจีน ไปเสียชีวิตที่ญี่ปุ่นด้วยไข้หวัดใหญ่ชนิด A ก็ทำให้มีการตื่นตัวกันมาก ในเรื่องไข้หวัดใหญ่ จึงอยากจะสรุปประเด็นสำคัญดังนี้
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ระบาดตามฤดูกาล โดยเฉพาะในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ จะระบาดมากในฤดูหนาวของซีกโลกนั้น
ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา อยู่ซีกโลกเหนือจะระบาดในฤดูหนาวประมาณเดือนธันวาคมถึงมีนาคม ส่วนออสเตรเลีย และประเทศซีกโลกใต้จะระบาดในเดือน มิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะอยู่ซีกโลกเหนือนิดหน่อย หรืออยู่เขตร้อนมากกว่า ไม่มีฤดูหนาวที่ชัดเจน การระบาดของโรคจะเกิดขึ้นในฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายน เป็นการระบาดใหญ่และจะระบาดอีกครั้งหนึ่งจำนวนไม่มากในเดือนมกราคมกับกุมภาพันธ์ ดังนั้นในเดือนนี้ของประเทศไทยจึงอยู่ปลายฤดูกาลแล้ว
วัคซีน ไม่ได้สามารถป้องกันโรคได้สูง แต่ลดความรุนแรงของโรคได้ แนะนำให้ฉีดในกลุ่มเสี่ยงและอ่อนแอ มีโรคประจำตัวเพราะถ้าเป็นแล้วจะรุนแรงจะได้ลดความรุนแรงของโรคลง กลุ่มเสี่ยงก็เช่นเดียวกับกลุ่มเสี่ยงของโควิด 19 ก็คือ ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว และเด็กเล็ก สตรีตั้งครรภ์ ในคนทั่วไปจะฉีดด้วยก็ไม่ผิดกติกา เพราะวัคซีนราคาไม่แพง และมีความปลอดภัยสูง
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1738904294_944572-ejan.webp)
การให้วัคซีนในประเทศไทย เดือนที่เหมาะสมที่สุดจะเป็นเดือนที่ก่อนการระบาดของโรค คือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม หรือก่อนเปิดเทอมของนักเรียน
วัคซีนที่ใช้อยู่ จะมี 2 กลุ่ม วัคซีนสำหรับซีกโลกเหนือ และซีกโลกใต้ ประเทศไทยควรใช้วัคซีนสำหรับซีกโลกใต้ เพราะการระบาดเกิดขึ้นคล้ายกับการระบาดในซีกโลกใต้
วัคซีนซีกโลกใต้ จะเริ่มเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไป และไปหมดอายุ เมื่อสิ้นธันวาคม
การฉีดวัคซีนในตอนนี้ ก็จะเป็นวัคซีนของซีกโลกเหนือ และก็จะต้องมีการฉีดซ้ำอีกเมื่อเข้าสู่การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นรูปแบบของซีกโลกใต้
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบไปฉีดวัคซีนขณะนี้ จะได้วัคซีนซีกโลกเหนือ ยกเว้นสำหรับผู้ที่จะเดินทาง ไปซีกโลกเหนือ เช่นไปญี่ปุ่น จีน ยุโรปและอเมริกา
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1738904339_770278-ejan.jpg)
วัคซีนฉีดแล้วกว่าจะมีภูมิต้านทานได้เต็มที่ใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย การให้วัคซีนก่อนเดินทางก็ควรให้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่ใช่จะเดินทางวันสองวันแล้วเพิ่งฉีดวัคซีน
โดยสรุป การหาฉีดไข้หวัดใหญ่ขณะนี้ จะมีความจำเป็นสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปซีกโลกเหนือเท่านั้น เช่นจะเดินทางไปญี่ปุ่น จีน ยุโรป อเมริกา สำหรับผู้ที่อยู่ในประเทศไทย และผู้ไม่ได้เดินทาง ควรรอการฉีดวัคซีนหลังเดือนมีนาคมไปแล้ว จะได้วัคซีนสำหรับป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ตรงสายพันธ์กว่า เพื่อป้องกันการระบาดตามฤดูกาล
พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ควรตื่นตระหนกไปกับข่าว หรือดารา
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1738904574_189011-ejan.png)
ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan