“สุขภาพทางช่องปาก” เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป และไม่รู้ว่าอาจส่งผลต่อหลอดเลือดสมองตัวเองโดยไม่รู้ตัว..
(31 ม.ค.68) รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “หมอหมู วีระศักดิ์” เตือนผู้ที่มีภาวะเหงือกอักเสบขั้นรุนแรง อาจเสี่ยงที่จะเกิดหลอดเลือดสมองอุดตัน ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียช่องปากเข้าสู่กระแสเลือด แนะหมั่นตรวจสุขภาพฟันสม่ำเสมอ
โพสต์ระบุว่า
ระวัง! เหงือกอักเสบรุนแรง เสี่ยงเกิดหลอดเลือดสมองอุดตัน
สุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง การดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ดีอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้
ความเชื่อมโยงระหว่างโรคเหงือกอักเสบกับโรคหลอดเลือดสมอง :
1. โรคเหงือกอักเสบ (โรคปริทันต์): การสะสมของแบคทีเรียในช่องปากสามารถนำไปสู่การอักเสบของเหงือก ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้แบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด ก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด
2. การอักเสบของหลอดเลือด: แบคทีเรียจากช่องปากที่เข้าสู่กระแสเลือดสามารถทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปยังสมอง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
การป้องกัน มีดังนี้
1. การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ : การแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง สามารถลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์และป้องกันการอักเสบของเหงือก
2. การตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ : การเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำช่วยในการตรวจพบปัญหาสุขภาพช่องปากตั้งแต่ระยะแรกและป้องกันการลุกลาม
3. การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป: พฤติกรรมเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปริทันต์และโรคหลอดเลือดสมอง
สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันปัญหาฟันและเหงือก แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและส่งเสริมสุขภาพโดยรวมด้วยนะครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก: https://medshun.com/…/how-can-poor-oral-health-cause-a…
เรียบเรียงโดย: รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี #หมอหมูวีระศักดิ์ #ตีแผ่ทุกความจริงด้วยวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ หมอหมู ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ข้อมูลทั้งหมดที่ผมนำเสนอมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน และผมได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้นจึงขอเรียนทุกท่านว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของผม และควรหาข้อมูลเพื่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้งด้วยนะครับ”
ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก หมอหมู วีระศักดิ์