ไขข้อสงสัย? การเกิด “ขาบวม” เกิดจากกลไกอะไรได้บ้าง?

ต้องคอยเช็กตัวเอง! วิทย์การแพทย์ ตอบชัด การเกิด “ขาบวม” เกิดจากกลไกอะไรได้บ้าง? แนะ หากใครพบแล้วบวมอย่างมีนัยสำคัญจริง ๆ ต้องพบแพทย์ทันที

สงสัยกันมั้ยว่าเวลา “ขาบวม” เกิดจากอะไรได้บ้าง? วันนี้มีคำตอบ… 

วันนี้ (25 เม.ย.68) เพจเฟซบุ๊ก  Tensia  เพจที่นำเสนอวิทยาศาสตร์การแพทย์ เน้นความเข้าใจเชิงกลไก ไปพร้อมกับตัวการ์ตูนของเพจ ที่เล่าเรื่องราวหลากหลายอารมณ์ ทั้งสาระและบันเทิง ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับการเกิด “ขาบวม” ซึ่งมีการอธิบายต่อว่ากลไกการเกิดนั้นมีอะไรบ้าง โดยระบุข้อความว่า… 

“ขาบวม กลไกเกิดจากอะไรได้บ้าง? 

ในภาวะปกติ: 

เมื่อเลือดเดินทางถึงหลอดเลือดฝอย 

-เลือดบางส่วนจะกรองออกไปข้างนอก 

(เม็ดเลือดไม่ได้ตามไปด้วย) 

→ พาสารอาหารไปให้เซลล์ 

→ ของเหลวที่เหลือไหลเข้าหลอดน้ำเหลือง 

→ หลอดน้ำเหลืองเทของเหลวกลับเข้าระบบเลือดดำ แล้วกลับสู่หัวใจต่อไป 

*ส่วนเลือดที่ไม่ได้ถูกกรองออกไป 

จะไหลผ่านหลอดเลือดฝอยไปยังระบบเลือดดำ 

กรองมากกรองน้อยขึ้นกับอะไร? 

1. ความดันเลือดฝอย: ถ้าสูง → กรองเยอะ 

2. ความดันอุ้มน้ำ: ถ้าต่ำ → กรองเยอะ 

3. สภาพรูของหลอดเลือดฝอย: ถ้ารูกว้าง → กรองเยอะ 

พอทราบหลักการคร่าวๆ แล้ว ก็ง่ายแล้วค่ะ 

บวม (Edema) คือการสะสมของเหลว  

ที่เนื้อเยื่อนั้นๆ มากเกินไป แบบขาในภาพ 

ของเหลวที่ว่ามันคือน้ำที่กรอง 

ออกมาจากหลอดเลือดฝอยนั่นแหละ 

ดังนั้นของเหลวสะสมมากขึ้นจึงเกิดได้จาก 

1. กรองออกมาเยอะเกิน 

2. ของเหลวไม่ยอมระบายออกไป 

1. กรองออกมาเยอะเกินไป เช่น 

-ความดันหลอดเลือดฝอยสูงไป อาจเกิดจาก 

* เลือดไหลเข้าเยอะ: เช่นใช้ยาลดความดันขยายหลอดเลือด (Amlodipine/Adalat), ปริมาตรเลือดเยอะขึ้นจากช่วงก่อนมีประจำเดือน (บวมเล็กน้อย), ไตวาย/ไตเสื่อมเรื้อรัง ขับน้ำไม่ออก 

*เลือดระบายออกไปทางเลือดดำช้า: เช่น โรคหัวใจล้มเหลวที่เลือดต่อคิวทยอยเข้าหัวใจช้า, โรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำที่ขา, มดลูกในคนท้องใกล้คลอด กดทับหลอดเลือด 

-ความดันอุ้มน้ำน้อยไป – โดยความดันนี้จะขึ้นกับปริมาณโปรตีนในเลือดเลยค่ะ ดังนั้นมันจึงเจอในโรคที่มีโปรตีนในเลือดต่ำ 

* ตับสร้างน้อย: เช่น โรคตับแข็ง, โรคทุโภชนาการขาดโปรตีน 

* เสียออกไปมาก: เช่น โรคไตรั่วโปรตีน (Nephrotic syndrome), โรคลำไส้เสียโปรตีน (Protein-losing enteropathy) 

-ผนังหลอดเลือดฝอยรูใหญ่ขึ้น: มักเกิดจากโรคที่มีสารก่ออักเสบตรงจุดนั้นสูง เช่น มีการติดเชื้อตรงตำแหน่งที่บวม 

-เนื้อเยื่อมีการสะสมของที่ดึงดูดน้ำ เช่น ภาวะไทรอยด์ต่ำ จะมีการสร้างสารชื่อ mucopolysaccharide สะสมตามผิวหนัง จึงดูดให้น้ำรั่วออกมาสะสมรอบตัวมัน 

2. ของเหลวไม่ยอมระบายออกไป 

เนื่องจากของเหลวต้อฝออกทางระบบน้ำเหลือง ดังนั้นถ้าระบบนี้อุดตันก็สะสมจนบวมได้ เช่น ตัดต่อมน้ำเหลือง, มีการกดทับท่อน้ำเหลือง, ติดพยาธิเท้าช้าง 

***สรุปสั้นๆ: 

บวม = น้ำมากไปเพราะ “กรองเยอะ” หรือ “ระบายไม่ได้” 

ใครพบแล้วบวมอย่างมีนัยสำคัญจริงๆ ต้องพบแพทย์นะคะ 

ปล. ในภาพเรียกว่าบวมแบบกดบุ๋มค่ะ ปล่อยนิ้วออกมาแล้ว ยังไม่ให้หายบุ๋มเลย” 

นี่ก็เป็นอีก 1 ความรู้และเคสตัวอย่างนะคะเกี่ยวกับการมี “ขาบวม” ขึ้นมาที่อาจเกิดจาก ระบบภายในทำงาน ทั้งนี้หากใครที่เกิด ขาบวม ผิดปกติและรู้สึกว่า กดแล้วบุ๋มลงไปแบบภาพดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ในทันทีค่ะ  

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจ Tensia https://www.facebook.com/share/p/16fH8XsQzf/