
ชีวิตของนกกับแม่แหว หลังปิดฉากความพลัดพราก 22 ปี ตอนนี้เวลาผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้วครับ นับตั้งแต่วันนั้น ทั้งคู่ยังติดต่อกันเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีโอกาสมาเจอกันบ่อยนัก แต่ความรักและความคิดถึงก็ไม่เคยจางไปเลย


หลังจากที่นกได้ส่งข่าวให้อีเต้ยอีจันทราบ ว่าปัจจุบันแม่แหววย้ายมาอยู่กับเธอที่บ้าน จ.พิษณุโลก แล้ว วันนี้ (7 ก.ค.2566) ทีมงานจึงได้มีโอกาสพูดคุยกับนกและแม่ ว่าชีวิตหลังจากที่ได้มาอยู่ด้วยกันเป็นยังไง

การสนทนาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ชวนให้คนที่เห็น อดยิ้มตามไม่ได้
แม่แหววบอกว่า เธอย้ายมาอยู่กับลูก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ซึ่งตอนแรกตั้งใจว่าจะอยู่กับลูกในระหว่างที่รอได้งานใหม่ แต่นกกับลูกเขยก็ได้ยื้อให้มาอยู่ด้วย จนแม่ยอมใจอ่อน และอยู่กับลูกมาตั้งแต่วันนั้น
“ตอนแรกแม่จะไปอยู่ที่ จ.ขอนแก่น แต่แฟนไม่ให้แม่ไป เขาบอกว่าเขากับนกจะดูแลแม่เอง ยื้อจนแม่ใจอ่อน เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ดูแลแกมาตั้งหลายปี ชีวิตที่เหลืออยู่ ก็ขอดูแลแม่กับย่าต่อไป” -นก-

“อะไรคือสิ่งที่ทำให้แม่ตัดสินใจมาอยู่กับนก?”
“สงสารลูกกับย่า ที่ต้องดูแลหลานหลายคน อยากมาช่วยแบ่งเบาภาระ ซึ่งแม่อยากจะมาตั้งนานแล้ว พอมีโอกาสก็มาเลย…” -แม่แหวว-
การย้ายมาอยู่กับลูก แม่แหววบอกว่าเธอเองใช้เวลาคิดไม่นาน ตอนนี้รอการเงินพร้อม เพื่อที่จะกลับไปเก็บของจากที่อยู่เดิม และย้ายมาอยู่กับนกอย่างเต็มตัว
ในส่วนของย่า นกเล่าว่าย่าดีใจที่แม่มาอยู่ด้วย ช่วยกันดูแลหลาน และยังคิดถึงน้องบิน หลานชายอยู่เสมอ แต่น้องชายยังไม่มีเวลาว่างมาหา ตอนนี้ทำได้เพียงคุยกันผ่านโทรศัพท์ไปก่อน

“ชีวิตหลังจากมีแม่มาอยู่ด้วย 24 ชั่วโมง เป็นยังไงบ้าง?”
“ดีขึ้นมาเยอะ แม่ก็มีความสุข ทะเลาะกับหลานพอเป็นสีสัน ได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระกัน ดูแลกันไปเรื่อยๆ” -นก-
นกบอกว่าในวันที่เจอกันครั้งแรกหลังพลัดพราก 22 ปี การแสดงความรักในตอนนั้นยังไม่รู้สึกเขิน เพราะห่างกันไปนาน แต่พอทั้งคู่ได้มาอยู่ด้วยกันทุกวัน กลับทำให้รู้สึกเขินอายที่จะแสดงความรัก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะการกระทำ และการดูแลเอาใจใส่ นั่นก็คือการแสดงความรักอยู่แล้ว


นกและแม่แหวว ยังฝากบอกคนที่อยากตามหาคนที่พลัดพรากจากกัน หรือคนที่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่แล้ว ว่า
“อยากให้ตามหาด้วยใจจริง พอเจอกันแล้วก็ขอให้ดูแลกันไป ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง ก็ขอให้รับได้ในสิ่งที่เขาเป็น จะจนหรือรวย ก็ขอให้อยู่กันด้วยความรักดีกว่า” -แม่แหวว-
“หากมีพ่อแม่ หรือคนที่รักอยู่ ก็ดูแลท่านให้ดี จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง ในวันที่สายเกินไป” -นก-
ขอบคุณนกกับแม่แหวว ที่มาแชร์เรื่องราวดีๆ นะครับ ขอให้ทั้งคู่มีความสุขในทุกวันนะ ^^

