
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่ได้มีดีแค่ความน่ารัก แต่ยังมากับความสามารถด้านธุรกิจที่ไม่ธรรมดา สำหรับ ซุง ศตาวิน และ ซ้อการ์ด ที่นอกจากจะเป็นครีเอเตอร์ขวัญใจชาวโซเชียลแล้ว ทั้งคู่ยังเป็นเจ้าของธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และทำยอดขายถล่มทลายจากพลังโซเชียลมีเดีย

ซุง ศตาวิน เริ่มต้นจากการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายไลฟ์สไตล์ ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์การนำเสนอสนุกสนาน จนทำให้มีผู้ติดตามบน TikTok และ YouTube หลายล้านคน ด้วยพลังของโซเชียลมีเดีย เขาสามารถต่อยอดความนิยมไปสู่ธุรกิจแฟชั่นและสินค้าต่าง ๆ ที่มียอดขายพุ่งแรง โดยอาศัยการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ที่ช่วยให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ธุรกิจของ ซุง เน้นการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) โดยใช้แพลตฟอร์มโซเชียลในการนำเสนอสินค้า และสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจลูกค้า ซึ่งช่วยให้สินค้าของเขาขายหมดอย่างรวดเร็วในทุกครั้งที่เปิดตัว

ด้านสาวเก่งอย่าง ซ้อการ์ด ก็ไม่ธรรมดา เธอเป็นเจ้าของแบรนด์ Love Potion ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางที่กำลังมาแรงในตลาด ความโดดเด่นของแบรนด์อยู่ที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์และการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านการไลฟ์สดบน TikTok และแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยทุกครั้งที่ซ้อการ์ดเปิดไลฟ์ขายสินค้า มักจะทำยอดขายได้หลักล้านบาทภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที กลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ Love Potion คือการเน้นความใกล้ชิดกับลูกค้า ผ่านการไลฟ์สดที่เต็มไปด้วยความเป็นกันเอง พร้อมการรีวิวจากผู้ใช้จริง ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง จนสินค้าหลายรายการขายดีหมดเกลี้ยงทุกล็อต

ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในฐานะครีเอเตอร์และเจ้าของแบรนด์แล้ว ซุง และ ซ้อการ์ด ยังได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนในธุรกิจตลาดนัด เซฟวันโก ซึ่งเป็นการขยายกิจการจากตลาด เซฟวันโคราช ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ปัจจุบัน ทั้งคู่กำลังเตรียมเปิดสาขาที่สองที่ศรีสมาน จังหวัดนนทบุรี โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างพื้นที่ค้าขายใหม่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าและผู้บริโภคในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ ซุงและซ้อการ์ดได้ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเองในการโปรโมตและอัปเดตความคืบหน้าของตลาดเซฟวันโก สาขาศรีสมาน อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตื่นเต้นและความสนใจให้กับผู้ติดตามและผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตลาดนัดแห่งใหม่นี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในสายธุรกิจของทั้งคู่

นอกจากจะเป็นคู่รักที่เติมเต็มกันและกันในชีวิตส่วนตัวแล้ว ซุง และ ซ้อการ์ด ยังเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งคู่สนับสนุนกันและกันในด้านการสร้างคอนเทนต์ การวางแผนการตลาด รวมถึงการขยายแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ซุง มักจะใช้ความสามารถด้านการทำคอนเทนต์สร้างกระแสให้แบรนด์ของ ซ้อการ์ด ขณะที่ ซ้อการ์ด ก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารธุรกิจและการจัดการสินค้า ทำให้ทั้งสองสามารถเติบโตในวงการธุรกิจได้อย่างมั่นคง

เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ใครที่อยากติดตามไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ หรือสนใจแนวทางการทำธุรกิจผ่านโซเชียลมีเดีย คู่นี้คือไอดอลที่ต้องจับตามอง
