🎬คลิปบันเทิง : ใบเตย อาร์สยาม เปิดใจทั้งน้ำตา สิ่งที่เจอมันเลวร้ายมาก

ใบเตย อาร์สยาม เปิดใจทั้งน้ำตา รับสิ่งที่เจอมันเลวร้ายมาก เผยยังไม่ได้คุยกับ ฟิล์ม รัฐภูมิ หลังมีข่าว บอกเคยคิดสั้นตอนอยู่ในเรือนจำ

ยังคงเป็น ประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ กับกรณีที่ของดีเจแมน พัฒนพล ที่ได้ออกมาแชร์ เรื่องราว ที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ดีเจแมน บอกว่ามีดาราเรียกรับเงิน ตนเองกับใบเตยคนละ 7 ล้านรวมเป็น 14 ล้านพร้อมอ้างว่า จะช่วยเรื่องคดี Forex 3D โดย ดีเจแมน ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านรายการแฉ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งดาราคนที่โดนโยงกรณีนี้ ว่าเป็นคนเรียกเงินจากดีเจแมนหรือเปล่า นั่นก็คือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ต่อมาเจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธผ่าน ไทยรัฐบันเทิง และ ฮอตสตาร์นิวส์ ตามที่อีจันบันเทิงได้นำเสนอไปแล้ว

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 13 ก.พ. ใบเตย สุธีวัน ภรรยาของ ดีเจแมน ได้ออกมาเปิดใจในรายการแฉอีกครั้ง ถึงมรสุมชีวิตที่ได้เจอ ในช่วงที่ผ่านมา โดยใบเตย เผยว่า

“ไม่อยากพูดเยอะ วันนี้อยากขอความเห็นใจจากพี่ๆ ทุกคน ชีวิตหนูมันแย่มาตลอดมันเจออะไรร้ายๆ มาตลอด วันนี้อะไรไปแตะต้องเรื่องราวแย่ๆ หรือโยงคนอื่นอีก ไม่อยากข้องเกี่ยวเลย เพราะว่าที่ผ่านมามันปวดหัวใจหนูมาก กับทุกเหตุการณ์ เครียดมาก เราเป็นซึมเศร้าหนักมากด้วย พอเจออะไรแบบนี้อีก เหมือนภาพเก่าๆ เดิมๆ มันกลับมา ที่ต้องมานั่งพูด นั่งหวาดระแวง นั่งกลัวกับการเจออะไรแบบนี้ อยากขอความเห็นใจ เอาจริงๆแล้วเรื่องราวทั้งหมด คือวันนี้ก็ทำงานมาทั้งวันตั้งแต่ตื่นก็ไม่ได้รู้ดีเทลหรือว่าอะไรมากมาย อยากแยกแยะทุกอย่างในชีวิตให้มันดีที่สุด”

Youtube : รายการ แฉ

“ก็อย่างที่บอกว่าเห็นใจหนูหน่อย หนูไม่ไหวกับการที่ต้องมานั่งเจออะไรแบบนี้อีก สิ่งที่เจอที่ได้รับรู้กันไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่สิ่งที่หนูเจอ มันเลวร้ายกว่านั้น หนูเจอมากกว่านั้นเยอะมาก เจออะไรหลายอย่าง ต้องยอมรับว่าเรื่องการกระทำลักษณะ ใครที่มีคดีเชื่อว่าทุกคนเจอหมด หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ใบเตยได้รับ DM หรืออะไรทางเฟซทางติ๊กต็อกเยอะมากกว่าคนเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาหมด ใบเตย ไม่เคยได้เล่าผ่านรายการว่าหนูเจอและครอบครัวหนูเจอ เยอะมากๆ ไม่ใช่แค่เป็นใครก็ได้ เจอทุกรูปแบบทุกอาชีพ อยากจะบอกไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าอาชีพนี้มีอยู่จริง และมีคนเจอเยอะมากขนาดหนูอยู่ในนั้นหนูยังเจอ มันก็เป็นเรื่องที่เราไม่อยากจำมาตลอดคนหยิบยื่นความช่วยเหลือแต่หวังผลประโยชน์ หลายๆ ชนชั้นในวันที่เราเจอคดี ใครเจอคดีแล้วมีชื่อเสียง หรือเป็นคดีดังๆ หน่อย ก็คิดว่าจะโดนแบบนี้”

Youtube : รายการ แฉ

ด้านพิธีกรอย่าง มดดำ คชาภา ได้ถามว่า ได้คุยกับ ฟิล์ม บ้างไหม?

ใบเตย ได้เปิดใจต่อว่า “ยังไม่ได้คุยดีเทลอะไรมากกับ พี่ฟิล์ม ตอนนี้ไม่ได้อ่านรายละเอียดสองฝั่ง ว่าเริ่มต้นจากอะไร และจบที่ตรงไหน แต่ตอนนี้หนูไม่รู้จะพูดอะไร ต้องบอกแบบนี้ ไม่อยากพูดถึงมันด้วย และรู้สึกว่ามันมีผลกระทบกับจิตใจหนู หมายถึงให้หนูไปนั่งพูดเกี่ยวกับอะไรแบบนี้เดิมๆ ภาพเดิมๆ มันแย่”

อยากจะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายว่ายังไง?

“ในมุมของใบเตย โดยส่วนตัวแล้ว อะไรที่มันเกิดขึ้นหรือว่ามันทำให้ชีวิตเราต้องกลับไปเจออะไรแบบเดิมๆ หนูรู้สึกว่าอยากให้มันจบลงตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ ยังไม่ได้ดูดีเทลรายละเอียดอะไรของทางทั้งสองฝั่ง หรือว่าในโซเชียลต่างๆ ก็ถ้าเห็นใจหนูก็อยากให้ข้ามผ่านมันไป แล้วก็ไม่อยากพาดพิงอะไรถึงใครอีกแล้ว ได้ออกมามีชีวิตอิสระแล้ว วันนี้หนูไม่อยากยุ่งหรือข้องเกี่ยวอะไรกับใครในส่วนนี้อีกเลย เพราะว่าเราก็อยู่เฉยๆมาตลอด”

Youtube : รายการ แฉ

ยังรู้สึกติดค้าง ติดอะไรในใจไหม ที่อยู่ดีๆวันนั้นเจอปัญหาหนักๆจริงๆ แล้วอยู่ดีๆมีคนมาเรียกเงิน ยังติดค้างอะไรในใจไหม?

“ ใบเตยไม่เคยโทษใครเลย เรารู้สึกว่ามันคือวิบากกรรมของชีวิตเรา ย้อนกลับไปหนูก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยในวันนั้น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอหรือปะทะได้เลย หนูเจอตั้งแต่เรื่องพี่แตงโม มาเป็นพี่สาวหนูอีกคนเจอคดีเดียวกัน แล้วมาเป็นหนู มันพังมาตั้งแต่ ณ วันนั้น มันเลวร้ายมาตั้งแต่ ณ วันนั้น หนูเข้าไปในนั้นอีก เลวร้ายหนักกว่า หนูต้องถูกพรากลูก แล้วหนูต้องเจอเหตุการณ์น้องเขยหนูตาย คือมันแย่มาก ถ้าตายได้หนูก็อยากตายนะ”

Youtube : รายการ แฉ

ตอนที่ ดีเจแมน และ ใบเตย ไม่อยู่ทั้งคู่ บอกหลานว่ายังไง?

ทางด้าน ลุกซ์ น้องชาย ใบเตย จึงได้ตอบว่า “บอกว่าเดี๋ยวพ่อกับแม่ก็กลับมา แต่ก็พยายามไม่พูดมาก สร้างความสดใสมากกว่า ตอนนั้นเราก็ยืมความสดใสเขามาเหมือนกัน เขาก็ฮีล ลุกซ์ เหมือนกัน ก็พยายามมองผ่านๆไป คนเราเกิดมามีหน้าที่ หน้าที่ของลุกซ์ ตอนนั้นก็คงจะเป็นน้อง เวทมนตร์ ก็ทำตามหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด”

IG : bitoeyrsiam

วันที่ออกมาก็รับงานเลย ยังต้องติดกำไลอยู่เลยใช่มั้ย ความรู้สึกที่ไปร้องเพลงแล้วมีกำไล EM มันรู้สึกยังไง?

“ใบเตย ทำตามกฎหมาย เราตกลงในวันประกันตัวว่าเราจะใส่กำไล EM เพราะฉะนั้นสิ่งที่หนูตั้งมั่น เราไม่ได้มองตรงนี้เลย จริงๆเราไม่ได้มองตรงนี้เลย แค่เราได้เจอลูก ไม่ได้มองสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะใส่อะไร ที่คอ ที่แขนหรืออะไร หนูไม่แคร์เลย หนูขอแค่ได้ออกมา หนูก็จะมีความสุข มันต้องเข้มแข็ง มันต้องสู้ วันนั้นพลังของความเป็นแม่ล้วนๆ”

IG : bitoeyrsiam

ที่มีของแบรนด์เนมเยอะๆ วันนี้ต้องขายหมดเลยจริงไหม?

“มีส่วนหนึ่ง ในช่วงที่ดำเนินคดีน้องลุกซ์ก็ได้เอาไปขายในช่วงที่เราไม่อยู่ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว เพื่อเอามาให้คนอื่นดำเนินชีวิต เพราะตอนนั้นให้ลุกซ์เอาไปขาย เพื่อดูแลคนในครอบครัว เพื่อปากท้อง”

IG : bitoeyrsiam

สรุปแล้วสิ่งของเหล่านั้นแหละ ที่ช่วยประคองชีวิตมาตลอด เพราะเอาสิ่งเหล่านั้นไปขาย?

ลุกซ์ น้องชาย ใบเตย ได้เปิดใจต่อว่า “จริงๆจะบอกว่า อยากขอบคุณมากๆ คือตอนนั้นระหว่างที่พี่เตยอยู่ในนั้น แล้วลุกซ์ ก็ขายของ คนที่มาซื้อของเราก็แบบขอบคุณมากๆเลยนะส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ก็เลยรู้สึกว่าในตอนนั้นเขายังเชื่อเราอยู่ เราขายของไปเราก็รู้สึกแบบเราก็เขินเหมือนกันนะ แต่อย่างที่ทุกคนบอกมันประทังชีวิตมันต่อชีวิตเราได้มากๆ แต่ก็อย่างที่ พี่แมน บอกเหมือนกันว่าก็เกลี้ยงเหมือนกัน”

IG : bitoeyrsiam

ที่เราเห็นเป็นคอนเทนต์เปิดแอร์ให้กระเป๋า มันก็เป็นธุรกิจของเรา ดูแลรักษากระเป๋า?

“เราไลฟ์ขายมา 5 ปีแล้ว”

ความรู้สึกที่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัววันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?

“ตามความรู้สึกจริงๆเลยก็คือความยุติธรรม ยังมีอยู่ในชีวิต ณ วันนี้สู้ข้างในมีตัวหนูคนเดียว ข้างนอกมีน้องลุกซ์อยู่คนเดียว หนูพูดกับตัวเองว่า หนูต้องรักษาชีวิตออกมาเจอครอบครัวของหนูให้ได้ หนูเจอการพลัดพรากไม่คิดว่าชีวิตจะเจออะไรแบบนี้ ทั้งจากเป็นและจากตาย หนูบอกตัวเองตลอด สุดท้ายแล้วเราเป็นคนดี อย่าลืมสิ่งที่ถูกต้องของเรา อย่าลืมสิ่งที่เรากระทำมาว่าเราเป็นคนดีจริงๆ เพราะบางทีในสิ่งที่เจอมามันหลอมรวม แล้วบางทีอาจจะลืมมองตัวเองไป เราซื่อสัตย์ต่อตนเองและซื่อสัตย์ต่อขั้นตอนของกฎหมายด้วย”

IG : bitoeyrsiam

“ต้องบอกก่อนว่าขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อเข้าไปโดนฝากขังแล้ว เป็นวิทยาทานความรู้นะคะ ว่าต้องอยู่ก่อน 3 เดือน ให้ครบฝากขังแล้วถึงจะได้ออกมาพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาล ซึ่งจะเป็นขั้นตอนของการนัดสืบพยานตรวจสอบ นัดพร้อมพยานหลักฐานทั้งหมด วันนั้นคือตัวทนายเองก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นประกันได้อีก 1 รอบ แล้วเราก็พอขึ้นสืบนัดพร้อมอะไรเสร็จ จนวันที่ได้ยกฟ้อง ก็เป็นเวลา 1 ปี เต็ม อยู่ในระหว่างพิจารณาคดี”

“อีกคนที่อยากจะขอบคุณ คือเฮียฮ้อ เขาก็บอกให้กลับมาทำงานหาเงิน ต้องขอบคุณเฮียและค่ายมากๆ ที่ยังเชื่อมั่นในตัวเรา เราไม่ได้อยากให้ใครมานั่งสงสาร หรือมานั่งบอกว่าเป็นกำลังใจ หรือสู้ๆ แต่วันนี้สิ่งที่คนอย่างหนูต้องการมากที่สุด ยังเชื่อมั่นว่าเรามีความสามารถและเราไม่เคยทำพฤติกรรมใดๆ ที่เคยถูกกล่าวหามา”

Youtube : รายการ แฉ

มันเปลี่ยนอะไรในชีวิตเรา หลังจากที่เราไปเจออะไรมาเยอะๆแล้ว?

“รู้สึกว่า เรามีธรรมะในใจ เพราะว่าอยู่ในนั้นเราสวดมนต์วันละ 4 เวลา จากคนที่ไม่เคยสวดมนต์เลยก็กลายเป็นสวดได้ทุกบท เรานิ่งขึ้น พูดน้อยลง อาจจะเป็นเอฟเฟ็กซ์ของการทานยา เพราะเราเป็นผู้ป่วยจิตเวช เป็นตั้งแต่เข้าไปเรือนจำ รักษาอยู่นั้นพบหมอทางจิตตลอด ตอนนี้กินอยู่ เป็นหนัก ขนาดที่อยู่คนเดียวไม่ได้ หนักสุดคิดฆ่าตัวตายตลอด

มดดำ จึงได้พูดปลอบใจ ใบเตย ว่า “ไม่ต้องตาย ถือว่าตายมาแล้ว จะตายอีกทำไม วันนี้ได้ผ่านความเป็นความตายมาแล้ว มีชีวิตใหม่แล้ว”

Youtube : รายการ แฉ

“ทุกวันนี้ ใบเตย กินยาเยอะมาก ตกคืนละ 6 เม็ด ต้านเศร้า แก้เศร้าไม่ให้ร้องไห้ หนูได้รับผลกระทบทางจิตใจเยอะ พอยิ่งเป็นเราเป็นคนมีชื่อเสียงเจอมากกว่าคนปกติ สิ่งที่หนักมากกว่าปกติคือเจอการสูญเสีย คือการจากตายของแฟน ลุกซ์ คู่เราคบมาพร้อมกัน พี่แม่นกับพี่ภูมิ เกิดเดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน แล้ววันที่ไป ก็ไปทั้งคู่ มันยิ่งกว่าช็อก ตอนที่อยู่ในนั้นไม่รู้อะไรเลย ทุกคนไม่มีใครกล้าบอกเรา พอรู้ก็เป็นลมอยู่ในนั้น ทุกวันนี้ต้องรีบเข้มแข็ง บางทีใบเตยเหม่อ ลูกก็ถามตลอด ก็จะพยายามมากๆ”

Youtube : รายการ แฉ

เป็นการออกมาแชร์ประสบการณ์ที่แย่ และดิ่งที่สุดในชีวิตของ ใบเตย ที่เจอมา และเธอผ่านช่วงเวลนั้นมาได้เพราะลูก และครอบครัวนั่นเองค่ะ