ฟ้าใส เคลียร์ใจเรื่องนางงามไร้มง ฉะสัญญาเปลี่ยน เงิน รถ บ้าน ยังไม่ได้!

ฟ้าใส เคลียร์ใจเรื่องนางงามไร้มง ฉะสัญญาเปลี่ยน เงิน รถ บ้าน ยังไม่ได้ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้

หลังจากที่เป็นประเด็นฉะกันไปมาระหว่าง ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 กับกองประกวด ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่จบง่ายๆ เพราะทั้งคู่ต่างงัดหลักฐานออกมาโชว์ข้อโต้แย้งซึ่งกันและกัน โดยงานนี้ฟ้าใส พี่เอส ผู้จัดการส่วนตัว และคุณคริส ทนาย ได้หอบหลักฐานมาเปิดเผยทุกประเด็นที่แรกในรายการคุยแซ่บSHOW ทางช่องวัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา, เป็กกี้ ศรีธัญญา และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

ภาพจากอีจัน
พี่เอสเพิ่งมาเป็นผู้จัดการไม่นาน รู้เรื่องทั้งหมด? พี่เอส : ต้องบอกว่ารู้เยอะกว่าที่แถลงไปอีก เพราะว่าน้องมาเรียนเรื่องการตอบคำถามการเป็นางงามกับพี่ก่อนมาประกวดที่ไทย เรียนมาตลอดเป็นปี ฟ้าใสปรึกษาละเอียดทุกขั้นตอน แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นผู้จัดการ รู้สึกว่าถ้าเราไปตัดสินใจแทนน้องมันเกินหน้าที่ของคำว่าครู ได้แค่คำปรึกษาเบาๆ
ภาพจากอีจัน


ดราม่าไม่เซ็นสัญญาเพราะว่าเรื่องเยอะ?
ฟ้าใส : ไม่ใช่คะ ที่ไม่มีการเซ็นเนื่องจากว่าทางคู่กรณีเขาเปลี่ยนสัญญามาตลอด
คริส (ทนาย) : มีข้อที่สำคัญอย่างเช่นเงินรางวัลได้รับ 1,500,000 บาท หลังการประกวดเสร็จไม่เกิน 30 วัน ต้องได้รับเงิน 750,000 บาท ตอนนี้ยังไม่ได้
พี่เอส : ตั้งแต่ได้รับตำแหน่งแล้วรับงานมา หักให้ 30% ทุกงาน
คริส (ทนาย) : เรื่องที่แฟนๆ นางงามให้ความสนใจเรื่องมงกุฎในสัญญาผู้ประกวดถ้าได้รางวัลเป็นมิสยูนิเวิร์สจะได้รับมงกุฎเป็นของฟ้าใสตั้งแต่วันที่ประกาศผล วันที่ได้รับตำแหน่ง ถือเป็นการรับมอบเรียบร้อยแล้ว
พี่เอส : เขาบอกว่าไม่ได้ เพราะไม่ได้เซ็นฉบับที่ 2 ฉบับแรกมีสัญญาเป็นนักแสดงด้วย 2 ปี รถยนต์ 1 คัน ที่พักประจำตำแหน่ง 1 ปี ยี่ห้อรถไม่เขียนระบุแต่ประกาศบนเวทีเป็นรถยุโรป จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับ มีของรางวัลสปอนเซอร์ใช้ตลอด 1 ปี พอได้ตำแหน่งก็มีฉบับที่ 2
ฟ้าใส : ก็มีการเปลี่ยนจาก 2 ปีไปเป็น 3 ปี จากนักแสดงไปเป็นศิลปินก็คือครอบคลุมทุกอย่าง นักร้อง เดินแบบ ถ่ายแบบ เปลี่ยนเปอร์เซ็นต์จาก 70-30 ไปเป็น 65-35
พี่เอส : แล้วมีการว่าถ้าได้เป็นมิสยูนิเวิร์สจะเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์การหักทั้งหมดเป็น 50% สัญญาฉบับที่ 3 ไม่ได้เปลี่ยนแค่เนื้อหาบางเรื่อง มันเปลี่ยนของรางวัลเลย อย่างก่อนหน้านี้มงกุฎสวารอฟกี้ ฉบับนี้เป็นมงกุฎที่ระลึก

ภาพจากอีจัน
มงอยู่กับฟ้าใสนานเท่าไหร่? ฟ้าใส : อยู่จนกระทั่งเซ็นข้อตกลงอันสุดท้าย อยู่กองตั้งต่ช่วงปีใหม่แล้วคะ ลายมือใครเป็นคนเขียนในเอกสาร? ฟ้าใส : ฉบับที่ 2 เป็นลายมือคุณแม่ คุณแม่จะเขียนเพื่อขอรายละเอียด และเพื่อแก้ไข พี่เอส : คุณแม่แก้ให้เหมือนตรงกับฉบับที่ 1 ด้วยลายลักษณ์อักษรและปากเปล่าด้วย สุดท้ายมันมีการแก้แต่ไม่ได้ทั้งหมด ไม่มีระบุยี่ห้อรถ และบ้านพักประจำตำแหน่งที่ไหน หนูได้ข่าวมาว่าหนูจะอยู่ที่นั่นได้แค่ถึงสิ้นเดือนธันวาคมเท่านั้น เรื่องเปอร์เซ็นต์ก็มีการแก้ให้เป็น 70-30 ตามเดิม จะฟ้องมั้ย? ฟ้าใส : หนูมองว่าเซ็นข้อตกลงอันสุดท้ายไปแล้ว ทางกองก็ได้ให้โอกาสได้มีทุกวันนี้เป็นมิสยูนิเวิร์ส หนูพร้อมที่จะอโหสิและมูฟออน แต่เรื่องที่ทุกคนเข้าใจผิดหนูต้องการออกมาชี้แจงว่าข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าหนูเรื่องเยอะ ไม่ใช่ว่าหนูหัวหมอแล้วเปลี่ยนสัญญา ตอนที่มีข่าวออกมาก็มีหลายคนว่า หนูรู้สึกว่าทำไมเขามองเรา ทำไมมีการคาดเดาแบบนี้ ทำไมถึงไม่ถามหนู เซ็นฉบับสุดท้ายว่าอะไร? ฟ้าใส : สัญญาฉบับที่ 3 มันมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก เช่นในเรื่องของงานการกุศลและอื่นๆ พี่เอส : งานการกุศลและอื่นๆ ออกตามคงามเห็นชอบของกอง แล้วน้องต้องรับผิดชอบแต่งหน้าทำผมเอง ในสัญญาเขียนว่า ถ้าแต่งตัวไม่เหมาะสมจะส่งลายลักษณ์อักษรเตือน 3 ครั้ง ถ้าเตือนแล้วไม่ดีขึ้นก็ปรับ 100,000 บาท อ่านถึงตรงนี้รู้สึกยังไงบ้าง? ฟ้าใส : หนูรู้สึกตกใจว่าทำไมเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ ตกใจมากที่สุดคือในฉบับแรกบอกว่าหน้าที่บริษัทมอบเงินรางวัลและของรางวัล แต่พอฉบับที่ 3 เขาตัดหน้าที่ออก
ภาพจากอีจัน
ทำไมถึงตัดสินใจจบปัญหาไม่เอามง? ฟ้าใส : ในข้อตกลงฉบับสุดท้ายที่เข้าไปเซ็น หนูเข้าใจว่าในเมื่อหนูชนะบนเวทีอย่างถูกต้องและเป็นเอกฉันท์ ดังนั้นคำว่านางงามมันต้องมีสายสะพายและมงกุฎอยู่แล้ว หนูเข้าใจว่าสิ่งพวกนี้หนูต้องได้ ตอนนั้นเลยมีการตกลงกัน พี่เอส : ไปขอให้ว่าน้องทำงานแล้วขอ 500,000 แล้วกัน ฟ้าใส : เพราะว่าตอนแรกจะไม่ให้เงินเลยสักบาท แล้วทนายบอกว่าน้องทำงานทำหน้าที่ตามสัญญาฉบับแรกแล้ว ทำไมไม่ให้น้องเลย ก็มีการตกลง 500,000 บาท แต่มงกุฎไม่ให้นะ ตอนนั้นช็อก มันไม่ใช่ของหนูหรอเพราะหนูก็ได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่จ่ายเงินแต่ให้มงกับสายสะพายแฮปปี้กว่ามั้ย? ฟ้าใส : สำหรับหนูถ้าไม่ให้มง ทำไมหนูไม่ได้เงินล้านห้าละ มงกุฎเป็นของหนูตั้งแต่วันที่ชนะแล้ว มีบางงานที่ไป นางงามคนอื่นมีสายสะพายมีมงแต่เราไม่มี? ฟ้าใส : ต้องยิ้มสู้คะ ตอนนั้นต้องคิดบวกว่าเราเด่นสุดเนาะ ไม่มีอะไรต้องคิดบวกไว้ก่อน พี่เอส : มันมีเหตุการณ์นึงที่น่าสงสารวันอำลาตำแหน่ง ตอนที่ลงจากเวทีแล้วเขาจะเอามงกุฎคืน ฟ้าใส : หลังจากที่มอบตำแหน่งให้กับน้องๆ แล้ว จะมีการลงมาเปลี่ยนชุดไปถ่ายรูปกับแฟนคลับ ตอนนั้นคือหนูออกไปจะมีคนที่ถือกล่องมงกุฎตามหนูออกมาข้างนอก เขาจะเก็บเลยแต่หนูให้พี่เอสไปช่วยพูดอยากถ่ายรูปที่มีมงกุฎ เขาจะให้หนูเอามงกุฎออกตั้งแต่เดินลงจากเวทีแล้ว ทางคู่กรณีพูดแล้วว่าถ้าคุณเหมาะสมให้มาเอามงไป ทำไมไม่ไปเอา สัญญาก็ระบุ? ฟ้าใส : มีการนัดเข้าไปแล้ววันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ตอนบ่าย 3 หนูมองว่าได้ทำหน้าที่ครบถ้วนที่ดำรงตำแหน่ง เซ็นสัญญาแล้วทำไมถึงไม่ได้รางวัล? คริส (ทนาย) : สัญญาที่ฟ้าใสเซ็นไป ต้องถามเจ้าตัวว่าวันนั้นทำไม อะไรคือสาเหตุที่เซ็นไม่เอา ฟ้าใส : เรียกว่าเป็นการกดดันดีกว่าคะ ฟ้าใสต้องเข้ามาเซ็น มีทั้งจดหมายทนาย มีทั้งการกดดัน หนูก็เลยต้องเข้าไป พอเข้าไปหนูถามว่าข้อตกลงฉบับที่ 3 หนูไม่เซ็นอยู่แล้ว ขอไปเป็นเหมือนฉบับแรกที่เซ็นได้มั้ย ในเมื่อไม่ได้ก็เลยต้องจบกัน ฉบับสุดท้ายระบุว่าฟ้าใสจะได้เงิน 500,000 บาท และยังอยู่ในตำแหน่ง เขาบอกมงกุฎไม่ได้ให้ตั้งแต่แรก? ฟ้าใส : สัญญาในฉบับแรกมงกุฎกับสายสะพายให้คนที่ชนะก็จะได้ในค่ำคืนนั้นเลย หนูทำตามสัญญาฉบับแรก และทำหน้าที่มิวยูนิเวิร์สจนถึงวินาทีสุดท้ายอย่างครบถ้วนและซื่อสัตย์ด้วย ฝั่งกองทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าเหมะสมก็มารับมงกุฎไป? ฟ้าใส : หนูเชื่อว่าในค่ำคืนที่ประกวดทุกคนเห็นว่าหนูเหมาะสมหรือไม่ และคณะกรรมการก็ได้ตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าใครผู้ชนะในค่ำคืนนั้น
ภาพจากอีจัน
คิดว่าเรื่องนี้จะจบแบบไหน กลับมาปรองดองกันได้มั้ย? ฟ้าใส : สำหรับหนูยังมีโครงการที่ยังอยู่กับกอง แน่นอนว่าจะมีการร่วมงานการกุศลกัน หนูจะเลือกมองแต่สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น และขอบคุณที่มอบโอกาสให้หนูได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จะจำช่วงเวลาดีๆ คะ แฟนคลับซัพพอร์ตดีมาก อยากบอกอะไรบ้าง? ฟ้าใส : ขอบคุณมากๆ นะคะที่รักเป็นกำลังใจ ซัพพอร์ตฟ้าใสเสมอ ทุกคนคอยให้พลังบวกฟ้า ฟ้าใสจะคอยจดจำเวลาที่มาว่าจะนานแค่ไหนหนูจะย้อนกลับมานึกถึงวันที่ประกวด ที่ได้ตำแหน่ง วันที่กลับมา ไม่ว่าวันไหนก็ยังจำได้ เป็นความทรงจำดีๆ ที่หนูจะไม่มีวันลืม ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนี้ยังไง แต่อยากขอบคุณจริงๆ คะ