เคลียร์ให้จบ ! เอ๋ มิรา พูดอีกครั้งปมหึงหวงจนแตกหัก ทนายเก่ง

เคลียร์ให้จบ ! เอ๋ มิรา พูดอีกครั้งปมหึงหวงจนแตกหัก ทนายเก่ง ยุติการร่วมงาน และเป็นดราม่าไปทั่วโซเชียล

จากครั้งที่แล้วที่เราได้ค้างกันไว้ ในกรณีดราม่ายาวของ เอ๋ มิรา และแฟนหนุ่มอย่าไวน์ ที่มีปัญหากันกับ ทนายเก่ง ปมหึงหวงจนเป็นจุดแตกหักและยุติการทำงานร่วมกัน วันนี้ทั้งคู่ออกมาพูดอีกครั้งผ่านรายการ โหนกระแส เครียร์จบครบทุกประเด็น

ซึ่งในครั้งนี้ ไวน์ ก็ได้ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นหึงหวงแน่นอน และที่ไม่กล้าปฏิเสธการถ่ายคลิปของอั้มและการทำงานของทนายเก่ง เพราะเป็นคนที่เกรงใจและกลัวเสียความรู้สึก ส่วนคลิปในกล้องวงจรปิดที่เห็นว่า ไวน์ ถือโทรศัพท์ อั้มโพสต์คลิป ไวน์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนโพสต์แค่เพียงพิมพ์ # ให้อั้มเท่านั้น

ด้านทนายเก่งก็ยังได้ยืนยันคำถามว่า ทางทนายเก่งได้สั่งให้ให้ไวน์ทำคลิปไหม ทางไวน์ก็ได้ตอบว่าทนายเก่งไม่ได้เป็นคนสั่งให้ทำคลิป

ทางภรรยาของทนายเก่งก็ได้พูดย้ำอีกครั้งว่าสุดท้ายนี้ไม่ได้ติดใจอะไร เรื่องของการโพสต์คลิป เพราะถ้าทางฝั่ง ไวน์ ยืนยันว่าทางทนายเก่งไม่ได้เป็นคนสั่งโพสต์ เรื่องนี้ก็เคลียร์จบกันไป

มาที่เรื่องของการทำแบรนด์ร่วมกัน ซึ่ง เอ๋ มิรา เข้าใจว่าตนเองเป็นเจ้าของแบรนด์ และมาจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ พอตอนเงินเดือนออกก็ เอ๋ ก็เริ่มสงสัยเรื่องของส่วนแบ่งและเปอร์เซนต์ต่าง ๆ ซึ่งทางทนายเก่งพูดว่าจะให้เป็นเจ้าของแบรนด์ร่วมโดยแบ่ง 20% แต่สุดท้ายมีการหักค่าตีกลับต่าง ๆ เหลือเพียง 10%

มาที่เรื่องของการทำแบรนด์ร่วมกัน ซึ่ง เอ๋ มิรา เข้าใจว่าตนเองเป็นเจ้าของแบรนด์ร่วม ซึ่งในตอนแรกก็มาจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ก่อน พอยอดขายดีขึ้นก็มีการชักชวนกันเป็นเจ้าของแบรนด์ร่วมกัน แต่พอตอนเงินเดือนออก เอ๋ ก็เริ่มสงสัยเรื่องของส่วนแบ่งและเปอร์เซนต์ต่าง ๆ ซึ่งทางทนายเก่งพูดว่าจะให้เป็นเจ้าของแบรนด์ร่วมโดยแบ่ง 20% แต่สุดท้ายมีการหักค่าตีกลับต่าง ๆ เหลือเพียง 10% และหลังมาก็เริ่มมีคนมาไลฟ์ขายสินค้าร่วมด้วย ซึ่งก็มีเอ๋คนเดียวที่ทำคลิป และคอนเทนต์ต่าง ๆ เอง จนมีไวน์เข้ามาช่วยทำ ก็ได้มีการแบ่ง 10% ของตนไปให้ไวน์ 2% สุดท้ายที่ เอ๋ สงสัยเลยคือ ทำไม เอ๋ ถึงไม่ได้เปอร์เซนต์จากคนที่ขายสินค้าคนอื่นที่เอาคลิปของ เอ๋ ไปใช้ สุดท้าย เอ๋ก็ได้ไปถาม ปุ๊ก (ภรรยาทนายเก่ง) ว่าทำไมถึงไม่ได้เปอร์เซ็นต์ในส่วนนี้

และมีในเรื่องของบ้านที่เป็นเงินโบนัส ซึ่งทาง เอ๋ เข้าใจว่าจะได้บ้านหลังนี้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดเพิ่ม แต้สุดท้ายแล้วต้องเสียค่าส่วนต่างของบ้าน ถึง 5 แสนบาท

ซึ่งทางฝั่งทนายเก่งและภรรยาก็ได้โต้แย้งว่า สินค้าได้ผลิตมาก่อนแล้ว และจ้างน้องมาเป็นพรีเซนเตอร์ จนเห็นว่า เอ๋ ทำงานดี เลยชวนมาเป็นเจ้าของแบรนด์ร่วม และมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ 20% จากยอดขายไม่ใช่จากกำไร และเมื่อเปลี่ยช่องทางการขาย ก้ต้องลดราคาสินค้าลง จึงได้ตกลงส่วนแบ่ง ๆ ใหม่ จาก 20% เหลือเพียง 10% เท่านั้น และในเรื่องของภาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ บริษัทเป็นคนจ่ายเองทั้งหมดโดย เอ๋ ไม่ต้องจ่ายและโดนหักอะไรเลย และในเรื่องของส่วนแบ่งจากพันธะมิตรต่าง ๆ ที่ เอ๋ คิดว่าควรจะได้รับนั้น ทางฝั่งทนายเก่งก็ได้ตอบในเรื่องนี้ว่าได้มีการตกลงกัน ตั้งแต่แรกว่าจะได้เงินจากช่องทางไหนบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการส่งหลักฐานรายได้ต่าง ๆ ทุกครั้ง ตามที่ตกลงกันในตอนแรก ซึ่งทางทนายเก่งก็ยังบอกอีกว่า ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งก็ต้องมีการคุยกัน แต่ไม่เคยมีการคุยกันเลย จนเกิดการยุติการร่วมงาน

แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ เอ๋ ติดใจคือทำไมตนเองถึงไม่มีส่วนได้ในการขายอื่น ๆ นอกจากการไลฟ์ของตัวเอง และการรีรันของบริษัท เพราะตอนแรกที่ขายคนเดียวก้ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ แต่พอมีคนมาไลฟ์ขายในส่วนอื่น ๆ ก็เลยสงสัยว่าการเป็นเจ้าของแบรนด์ร่วมทำไมถึงไม่ได้เงินจากส่วนแบ่งอี่น ๆ ด้วย

และทั้งนี้เรื่องราวทั้งหมดก็เหมือนจะยังไม่ได้เคลียร์กระจ่างชัด แต่ทนายเก่งยืนยัน และพูดผ่านรายการว่า จะไม่ขอเป็นทนายให้กับ เอ๋ มิรา อีก และจะไม่ให้บ้านที่เป็นโบนัสกับ เอ๋ มิรา อีกแล้วและจะขายบ้านหลังนั้นและเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ช่วยเหลือคนอื่น ๆ ที่ต้องการ

ซึ่งในรายการอั้มก็ได้มีการสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ เพื่อชี้แจ้งกรณีคลิปที่เป็นประเด็น อั้ม ได้ยืนยันว่า อั้มไม่ได้เป็นคนชวนไวน์ถ่ายคลิปนั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วไวน์เป็นคนชวนถ่าย และตัวของอั้มเองไม่ได้เป็นคนโพสต์คลิปนั้น ตนเองไปแค่ถ่ายงานพรีเซนเตอร์เท่านั้น และไม่ได้รู้จักกับไวน์มาก่อน

ซึ่งงานนี้ ตัวของ เลขาอย่าง รูบี้ ก็ได้ออกมาแจงเรื่องนี้ ว่า คลิปอื่น ๆ หลังจากคลิปเจ้าปัญหา ว่าทางรูบี้เป็นคนลงเอง และไวน์รับรู้ก่อนลงทุกครั้ง มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด และเรื่องของการโพสต์เล่านิทานทางรูบี้ ยันว่า เลาเรื่องราวไปเรื่อย สร้างคอนเทนต์เท่านั้นไม่ได้หมายถึงใคร

และต้องมีการปิดจบ จากทนายเก่งถึงเรื่องบ้านที่ให้เป็นโบนัส ว่าจะไม่มีการให้ เอ๋ อีกแล้ว และรับไม่ได้ที่ เอ๋ เอาข้อมูลไปให้เพจต่าง ๆ ซึ่งทางเองก็ยืนยังว่าไม่เคยเอาไปให้เพจ มีเพียงแค่คุยกับเพื่อน ๆ เท่านั้น และยัยว่าที่ออกมาจากการทำงานร่วมกันกับทนายเก่งไม่เกี่ยวกับเรื่องอั้มและไวน์ แต่เป็นเรื่องของการทำงานที่ไม่เข้าใจกันและไม่สบายใจเท่านั้น

และสุดท้ายก็ได้มีการขอโทษกันไปมาทั้งน้ำตา และจบดราม่านี้ลงส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไปค่ะ