
กลายเป็นเรื่องราวที่ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ สำหรับ เอ๋ มิรา ที่ก่อนหน้านี้ ก็มีประเด็นผิดใจกับ ทนายเก่ง อดีตทนายคู่ใจ สนิทกันมากๆจนกลายเป็นพี่ชายที่นับถือ และทนายเก่งนี่เองที่เคยดูเรื่องของคดีให้ในช่วงที่ฟ้อง ครูไพบูลย์ อดีตสามี ต่อมาภายหลังได้เคลียร์ใจผ่านรายการ โหนกระแส ทำให้เรื่องนี้จบกันด้วยดี ส่งต่อไม้สองให้ ทนายพัฒน์ ดูคดีพรากผู้เยาว์ ที่ทางคุณแม่ของ เอ๋ เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ไพบูลย์ ซึ่งทนายพัฒน์ ช่วยต่อ


เรื่องราวของคดี พรากผู้เยาว์ยืดเยื้อมานานกระทั่งเมื่อวานนี้ แม่ของเอ๋ ได้แถลงต่อศาลว่า ไม่ติดใจเอาความอะไรกับจำเลย (ไพบูลย์) โดยมีข้อตกลงกัน ศาลสั่ง ไพบูลย์ จ่ายค่าเสียให้แม่เอ๋ 350,000 บาท แต่ ไพบูลย์ ยอมจ่ายให้แม่ เอ๋ ถึง 800,000 บาท โดยทนายพัฒน์ ได้เขียนอธิบายไว้ในเฟซบุ๊กว่า
“มาเจรจาค่าเสียหายคดีพรากผู้เยาว์ เนื่องจากเรื้อรังกันมานานจนเป็นมหากาพย์ คุยไม่ลงตัวสักที วันนี้ตกลงเจรจาปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ครูไพบูลย์ตกลงชำระเงินค่าเสียหายจำนวน 800,000 บาท (ศาลสั่งเพียง 350,000 บาท) จ่ายเกินที่ศาลสั่งเลย
คุณแม่กาญจนาพร แม่ของเอ๋มิรา แถลงไม่ติดใจดำเนินคดีแพ่งและอาญาอีกต่อไป รอลุ้นว่า ศาลฎีกาจะพิพากษาอย่างไรต่อไป ขอให้ทุกคนโชคดีครับ”

ก็ดูเหมือนว่า เรื่องนี้จะจบลงด้วยดี แต่อยู่ๆทางด้าน นางห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ อดีตคนที่เคยช่วยเหลือ เอ๋ ในวันที่มีปัญหากับ ไพบูลย์ ในตอนนั้น มีการโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อแบบรัวๆว่า
“ เรื่องผัวๆ เมียๆ ต่อไปอย่าไปยุ่ง ทะเลาะกันโดนรังแกมา มาหาเรา ช่วยจนเกือบผมติดคุก..มาวันหนึ่งไปแอบเคลียร์กันได้ ผมเสียเงินขึ้นศาลฟรี ”

“ อย่างน้อยๆเอ๋ มิรา กับแม่ควรปรึกษา บอกอะไรผมด้วย จะทำอะไรอย่างน้อยผมก็เคยช่วยเหลือ ปกป้องคุณ ขึ้นศาลเพราะคุณ 7 ครั้ง เกือบติดคุกเสียเงิน โดนปรับเกือบ2ล้าน …บ่เป็นหยังผมอภัยให้ กลืนเลือดและน้ำตา ยอมกินอาหารหมาเอง ”

“ คดีพรากผู้เยาว์ ชนะมา2ศาล จำคุก8ปีไม่รอลงอาญา เหลือศาลฎีกา ..สู้มาเกือบตาย ผิดกับทนายเก่า มาตั้งทนายใหม่ ..จู่ๆบอกว่าแถลงไม่ติดใจ…ไม่คิดถึงวันเอาเอกสารจากบ้านผู้ใหญ่บ้านมาให้เราสู้คดี เจ้ากรรมนายเวร ขออโหสิกรรมต่อกัน ”
“กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ได้เต่าลืมหมา ทำบุญไม่ขึ้น”

ซึ่งโพสต์ทั้งหมดของ นายห้างประจักษ์ชัย ตอนนี้ได้ลบออกจากเฟซบุ๊กไปหมดแล้ว
ทางด้าน ทนายพัฒน์ ด็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า
“ในความผิดฐานพรากผู้เยาว์เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่อาจยอมความกันได้ แต่การที่ผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจก็เป็นส่วนหนึ่งที่ศาลจะนำมาวินิจฉัยลงโทษในทางที่เป็นคุณแก่จำเลย มิได้หมายความว่าคดีไม่ได้เดินหน้าต่อครับ…”

“คดีของเอ๋มิรา ผู้ที่ทำช่วยมาแต่แรกต้องยกย่อง อ.ประจักษ์ชัย กับ พี่ทนายเก่ง ครับที่ช่วยสู้กันมา ส่วนผมพึ่งเข้ามาได้คุยกับ ครูไพบูลย์ ทราบปัญหาทุกฝ่ายระดับหนึ่ง ส่วนตัวผมเจตนาอยากให้ทุกคนให้อภัยกันครับ อันไหนที่มันแล้วก็อยากให้แล้วกันไปเถอะครับ”

“ผมในฐานะนักกฎหมายต้องการให้สังคมสงบสุข อันไหนเจรจาได้จะพยายามเจรจา ถ้าการเจรจาไม่เป็นผลค่อยใช้วิธีการตามกฎหมาย ผมทำตามหน้าที่ วางใจเป็นธรรม วางใจเป็นกลาง แล้วผมก็สบายใจ”

ทางด้าน เอ๋ มิรา ก็ได้เคลื่อนไหวเรื่องนี้เช่นกัน โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“เรื่องกับพบ.คดีพรากผู้เยาว์เป็นอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ ที่เห็นแม่หนูไปศาล แกไปรับเงินค่าเสียหายในส่วนที่ศาลบอก เรื่องคดียังคงดำเนินต่อไป หนูขอบคุณอ.ประจักษ์ชัย พี่เบิร์ด ป๋าเทพมากนะคะที่ผ่านมาคอยช่วยเหลือหนู หนูรักและเคารพทุกคนเสมอ ไม่มีวันลืมค่ะ”

นอกจากนี้ เอ๋ ยังได้คอมเมนต์เพิ่งเติมในโพสต์นี้อีกด้วยว่า
“บางอย่างที่หนูทำให้ไม่สบายใจหนูขอโทษ อ.ประจักษ์ชัย พี่เบิร์ด ป๋าเทพด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ”
“หนูโทรคุยกับอาจารย์แล้วนะคะ บางอย่างอาจารย์อาจจะเข้าใจผิด หนูเข้าใจและน้อมรับทุกอย่างค่ะ”
“ส่วนทนายพัฒน์แกเห็นไม่มีใครทำคดีให้หนูต่อ ฎีกามันจะสิ้นแล้ว แกเลยมาช่วยเจรจาในส่วนนี้ เรื่องเป็นมายังไงแกไม่ได้รู้เพราะแกไม่ได้รับผิดชอบคดีตั้งแต่แรก หนูขอบคุณทนายพัฒน์ด้วยนะคะ”
“ขอบคุณพี่ทนายเก่งด้วยนะคะ ที่ผ่านมาหนูจะจดจำสิ่งดีๆไว้เสมอนะคะ”

ไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อ เอ๋ ได้แชร์โพสต์ของทนายเก่งที่เขียนอธิบายเรื่องคดีพรากผู้เยาว์นั้น นายห้างประจักษ์ขัย ก็เข้ามาเขียนคอมเมนต์ด้วยว่า “มิอาจน้อยใจนะครับ…คุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อยู่เฉยๆนะครับ”

เอ๋ ได้อธิบายต่อถึงเงินค่าเสียหายที่ได้รับว่าตนเองไม่ได้เอา แต่ให้แม่กับยาย โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า
“เงินทุกบาทที่ได้มาจากค่าเสียหาย หนูไม่ขอเก็บไว้สักบาท ขอมอบให้แม่ ตา ยาย ตอบแทนที่ท่านเลี้ยงดูหนูมา หนูอยากให้ทุกคนมีความสุข ไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นยังไง ไม่อยากโกรธ ไม่อยากเกลียด เคียดแค้นอะไรกับใครเลยค่ะ”
ด้าน นายห้างประจักษ์ชัย ก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า
“เงินทุกบาทที่ผมเสียไป เวลา ชื่อเสียง ผมขอมอบให้เจ้ากรรมนายเวรผม ทุกภพทุกชาติที่ผ่านมา..เงินผมวางศาล1ล้าน ใครมาเบิกไปจ่ายใครรึเปล่า?”

เอาเป็นว่าเรื่องของความสัมพันธ์ของ เอ๋ มิรา และ นายห้างประจักษ์ชัย จะเป็นอย่างไรต่อไปคงต้องติดตามกัน หากมีอะไรเพิ่มเติม แอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ

