
กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองอีกครั้ง หลังจากที่ครอบครัวของนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ คิมแซรน จัดงานแถลงข่าวเปิดแชทข้อความที่ลูกสาวคุยกับพระเอกหนุ่มในปี 2016 เพื่อยืนยันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นในตอนที่ คิมแซรน ยังเป็นผู้เยาว์ และไม่ได้เริ่มในปี 2020 อย่างที่ค่ายต้นสังกัดของ คิมซูฮอน กล่าวอ้าง อีกทั้งยังเผยจดหมายที่เขียนหลังจากถูกทวงหนี้ และแชทที่เธอคุยกับเพื่อน รวมถึงภาพทำร้ายร่างกายตัวเองที่ครอบครัวอ้างว่าเกิดหลังจากที่ คิมแซรน ได้รับจดหมายทวงหนี้ และไม่สามารถติดต่อใครได้ เพื่อเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่า จดหมายทวงหนี้จากค่ายต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน ซึ่งเป็นค่ายที่เขานั่งแท่นบริหารนั้น สร้างความกดดันให้กับนักแสดงสาว จนเป็นสาเหตุที่ทำเธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในที่สุด


ล่าสุด ทางช่องยูทูบ Garo Sero Research ตัวแทนครอบครัว คิมแซรน ก็ได้ปล่อยหลักฐานเด็ดออกมามัดตัวพระเอกหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคลิปที่ คิมซูฮอน ถ่ายหน้าร้านชุดชั้นในที่ฝรั่งเศสแล้วส่งให้ คิมแซรน ที่ยังเป็นผู้เยาว์ โดยบทสนทนาในคลิปมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปร่างของผู้หญิง และส่อไปทางเรื่องเพศ
คิมซูฮยอน : สวัสดีครับ ยูทูบเบอร์ คิมซูฮยอน ครับ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่หน้าร้านชุดชั้นใน ที่ดูเหมือนในเกาหลีจะไม่มีแบบนี้นะครับ
เพื่อน : ที่เกาหลีก็มีชุดชั้นในซีทรูนะครับ
คิมซูฮยอน : ไม่ใช่ หมายถึงหุ่นแบบนี้ รูปร่างแบบนี้ ผมจะหาแบบนี้ได้จากที่ไหนในเกาหลี
เพื่อน : หัวนมแบบนั้น!
คิมซูฮยอน : เอ่อ…เราต้องปกป้องนางแบบใช่ไหม? (หันกล้องไปทางอื่น) เมื่อกี้คุณพ่อกับลูกสาวเพิ่งเดินผ่านไป ลูกสาวของเขามองผมด้วยความตกใจ เราสบตากันด้วย แต่ผมไม่สน แล้วก็ไม่อายหรอก ตอนนี้เรากำลังจะกลับโรงแรม
ซึ่งหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป คิมซูฮยอน ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก และมีการตั้งคำถามถึงสุขภาพจิตของเขาอีกด้วย

แต่ไม่เพียงเท่านั้น ช่องยูทูบตัวแทนครอบครัว คิมแซรน ยังได้เปิดแชทการสนทนาระหว่าง คิมแซรน กับ คิมซูฮยอน อีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นแชทที่พระเอกหนุ่มส่งภาพของ ส่งไปให้เธอแล้วบอกว่า “อ่า…ช่างน่าหลงไหลจริงๆ” กับอีกข้อความที่ คิมแซรน ส่งจูบให้เขาผ่านข้อความ เขาก็บอกว่า “ไว้ทำจริงๆ นะ” ในขณะที่เขามีอายุเกือบจะ 30 ปี และ คิมแซรน ซึ่งอายุเพียง 15 ปี หลายคนจึงตั้งคำถามว่าพฤติกรรมของ พระเอกหนุ่มเข้าข่ายการ ใคร่เด็ก หรือไม่?

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปจบลงที่ตรงไหน พระเอกหนุ่ม คิมซูฮยอน จะยังนิ่งเฉย หรือออกมาเคลื่อนไหวอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้ งานนี้เราคงต้องรอติดตามกันต่อไปค่ะ
