มายด์ สาวคู่กรณีคบนักร้องดัง ขอพูดบ้างในฝั่งของตัวเอง

มายด์ สาวคู่กรณีนอกใจเพชนหนุ่ม คบนักร้องดัง ขอพูดบ้างในฝั่งของตัวเอง

กรณีดราม่ากับนักร้องชื่อดัง ที่เป็นข่าวสนั่นโซเชียล และถูกจับตามอง วันนี้ฝั่งของ มายด์ ขอพูดบ้าง ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร 

Youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official

ซึ่งในรายการมายด์เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รู้จักกันเพชรมา 6-7 ปี อยู่ด้วยกันตลอด แต่ไม่ได้จนทะเบียสมรส ซึ่งตัวมายด์เองทำอาชีพเป็นฟรีแลนด์ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาที่คบกับเพชร ก็มีการทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา และเพชรก็มักมีการเผลอบอกเลิกอยู่บ่อยครั้ง และตามที่เพชรเล่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก ได้มีปัญหาสะสมมาเรื่อยๆและทะเลาะกัน จนทางมายด์ได้มีการบอกเลิกกับเพชร ซึ่งเขาก็ได้มีการขอโอกาส ซึ่งทางมายด์ก็ให้โอกาสเพชร แต่ก็ขอเปิดโอกาสให้ตัวเองเหมือนกัน ซึ่งในการกลับมาครั้งนี้ก็เป็นการเลิกกันแต่ยังไม่ได้เลิกกันขาด บอดแค่เพื่อน ๆ ที่สนิทเท่านั้น ซึ่งเพชรก็มีโอกาสคิดได้ว่าเรายังเป็นแฟนกันอยู่ แต่ทางมายด์เองไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว 

พี่หนุ่ม : สถานะเรียกว่าแฟนได้มั้ย ?

มายด์ : ก็อาจจะยังไม่เลิกกันขาด

Youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official

ซึ่งมายด์ก็ได้แก้ต่างในสิ่งที่ เพชร พูดในวันนั้น เรื่องของแชตไลน์ที่ยังดูเหมือนเป็นแฟนกันอยู่ มายด์ได้ตอบว่าที่ยังอยู่เพราะจำเป็นต้อง และอยู่เพราะเป็นห่วงทางเพชร แต่สถานนะตอนนั้นตั้งแต่วันที่บอกเลิกมันไม่เหมือนเดิมแล้ว

และ มายด์ ได้รู้จักกับทาง โตโน่ ในเดือนมีนาคม ปี 2567 ในงานอีเวนท์ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกันเป็น MC ในงาน และเมื่อจบงานได้มีการแท็กสตอรี่ ไปหานักร้องดัง เพื่อนอยากเก็บเป็นโปรไฟล์ในการทำงาน และหลังจากนั้นทางนักร้องก็ได้มีการ DM มาคุยเรื่องงาน ทำนองว่าอยากชวนไปทำงานด้วย เป็นคนช่วยต่อบทก่อนเข้าฉาก ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการทักมาคุยบ้างแบบ ไม่มีเชิงชู้สาวอย่างแน่นอน

Youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official

จนเดือน มกราคม 68 ทาง โตโน่ ก็ทักมาถาม มายด์อีกครั้งถามสารทุกข์สุกดิบ และถามว่าว่างงานหรือยัง และชวนไปทำงานในส่วนของสโมสร เป็นเลขาประธานผ่าน DM และก็ได้มีการเข้าไปทำงานด้วยกัน และพอสนิทกันมากขึ้นก็ได้เข้าไปทำงานในด้านอื่น ผู้ช่วยผู้จัดการ ซึ่งเวลาการทำงานในแต่ละวันไม่แน่นอน 

ซึ่งตอนไปทำงานก็ได้ไปสนามฟุตบอลบ่อย ๆ ก็ได้รู้จักกับ กัปตัน และตอนแรกไม่ทราบว่าเขามาจีบ คิดว่าเป็นการทำงานกันปกติ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่หลัง ๆ ก็มีเหมือนจีบ ๆ  อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ตอบตลอด ตอบบ้างเพราะต้องทำงานด้วยกัน ซึ่งตลอดเวลาที่กัปตันมาจีบ ทางนักร้องก็ทราบ มีการทักมาแซวอยู่ตลอด ทำนองว่ามีหนุ่มมาจีบเยอะนะ และยังมีการเตือนอยู่ตลอดว่าดูดี ๆ นะคนนี้ ทำนองว่าเป็นห่วง? และมารู้จริง ๆ ว่ากัปตันจีบคือวันวาเลนไทน์ที่เขาเอาดอกไม้มาให้ มายด์

Youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official

และมารู้สึกว่าฝ่ายนักร้องเริ่มแปลกไป ในช่วง กุมพาพันธ์ 68 ซึ่งก็ได้มีการเข้ามาดูแลเทคแคร์ตัวของมายด์เองเป็นพิเศษ และมีการบอกชอบแบบลอยๆขึ้นมาบนรถ แต่ตอนนั้นยังคิดว่าคงหมายถึงชอบการทำงาน แต่เริ่มมีการทักมาบอกคิดถึงและดูแลเราดีขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่าคนอื่น 

และเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีการเอาไปบอก เพชร แต่อย่างใดเพราะคิดว่าเราเคลียร์กันไปตั้งแต่พฤศจิกายนแล้ว และที่ทุกคนยังเห็นเรียกเพชรว่าที่รักก็เป็นเพียงคำพูดติดปากของตัวมายด์เองเท่านั้น 

และยอมรับว่าสับสน และหวั่นไหวกับนักร้อง ด้วยคำพูดต่างๆ ที่ทางนักร้องคุยกับมายด์ และการกระทำต่าง ๆ ที่มายด์อาจจะไม่เคยได้รับ และทำให้เริ่มมีใจกลับไปกับทานักร้อง

Youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official

ยอมรับว่าตลอดเวลาที่ทำงานกับ โตโน่ รู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วคือ ณิชา และเคยเจอกันบ้างบางครั้ง และตลอดเวลาที่คุยกับโตโน่ รู้สึกผิดต่อ ณิชา และถามโตโน่อยู่ตลอด “พี่โน่มีแฟนแล้วนะ” และพี่เขาก็จะเล่าความสัมพันธ์ของเขากับ ณิชา ให้ฟังตลอด และมีเหตุการณ์ ที่อยู่ดี ๆ ทางโตโน่ก็พูดขึ้นมากับทางเมย์ (ผู้จัดการ) และ มายด์ พร้อม ๆ กันว่า ”เขาคิดกับ ณิชาแค่น้องสาว เขาไม่ได้รักณิชาแล้ว“ ซึ่งโตโน่เคยบอกกับมายด์ว่าเขาไปแช่ว่านมาเขาโกหกไม่ได้ ทำให้มายด์เชื่อเรื่องนี้อย่างหมดใจเลย

และหลังจากนั้นก็มีอีกเหตุการณ์ ที่ทางเมย์ (ผู้จัดการ) บอกกับทางมายด์ว่า ”ถ้าผู้ชายคนนั้นเขามีแฟนแล้ว แล้วเขามาชอบเรา เขาต้องจบกับคนของเขาให้ได้“ ซึ่งประโยคนี้ทำให้มายด์จำว่า ถ้าเขารักเราจริงเขาต้องไปจบกับคนของเขาให้ได้ ซึ่งมีครั้งหนึ่งไปส่งโตโน่ที่บ้านแล้วมี ณิชาเดินออกมา ก็รู้สึกผิดอยู่ในใจไม่กล้าแม้แต่สบตา และหลังจากตัวมายด์กลับมาถึงห้อง ทางโตโน่ก็ได้ทักมาบอกมายด์ว่าขอโทษที่ทำให้รู้สึกไปดี ไม่รู้ว่าณิชาอยู่ที่บ้าน 

และหลังจากนั้นทาง โตโน่ บอก มายด์ แล้วว่าคุยกับณิชาและขอห่างจากณิชาแล้ว ซึ่งเป็นการคุยกันสองคน และพอมาอีกวันหนึ่งทาง ณิชา ก็ได้มีการโพสต์ ”ถึงเวลาดูแลหัวใจตัวเองแล้ว“ ทำให้มายด์ยิ่งเชื่อเข้าไปอีก ว่าเขาคงเคลียร์กันแล้ว

และวันที่โตโน่ ไปหาหลานกับ ณิชา ที่เชียงใหม่ที่ทุกคนเห็นกัน ก็ยังทักมาหามายด์ว่าเดี๋ยวกลับมาหา และสึกท้ายก็กลับมาหามายด์จริง ๆ ตามแชต และบริบทต่าง ๆ ทำให้มายด์คิดว่าทั้งคู่ โตโน่กับณิชา คงเลิกกันแล้วจริง ๆ 

เหตุการณ์วันที่ เพชร มาเจอคือเรื่องราวก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน มายด์ก็ได้คุยกับเพชร ว่าเรารู้สึกไม่เหมือนเดิมนะ และขอกลับมาเป็นเพื่อนกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์มันก็เหมือนเป็นเพื่อนกันมาแล้ว และก็ที่ไม่คุยกับเพชรในวันนั้น เพราะกลัวจะมีปัญหากัน จึงเดินไปขึ้นรถและขอแยกกันคุยน่าจะดีกว่า

ซึ่งที่ มายด์ บอกทางฝั่งนักร้องว่า โสด คือบอกว่า โสดในช่วงแรก แต่พอสนิทกันแล้ว ก็ได้บอกว่ามีคุย ๆ อยู่กับแฟนเก่า และยังไม่ขาดกับแฟนเก่า และเสียงที่ โตโน่ มีการถามว่า ”พี่เป็ชู้เหรอ?“ มายด์ยืนยันว่าไม่ใช่ แค่ยังเคลียร์กับแฟนเก่าไม่จบ มายด์เลิกแล้วแต่เขาไม่จบ ซึ่งทางผู้จัดการ และโตโน่รับรู้ และคลิปเสียงในรถถ้ารื้อได้

และตอนนี้อยากให้ โตโน่ ออกมาเคลียร์เรื่องราวนี้ และมาเคลียร์กับตัวมายด์ด้วย สุดท้ายสิ่งที่ทำให้มายด์มีสติขี้นมาคือคำพูดของหลานโตโน่ ที่บอกว่า “อาโน่เป็นนักแสดงครับพี่มายด์” ทำให้เขามีสติและคิดว่าทั้งหมดที่ผ่านมาคือการแสดง?

Youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official

และเรื่องของ โต้ง twopee ที่มีประเด็นอยู่ในตอนนี้ ยอมรับว่าเคยคุยกันจริง และยืนยันว่าไม่ได้ทำให้ใครเลิกกันแน่นอน และคุยกันในช่วงที่เราทั้งคู่โสดเท่านั้น 

IG : twopee

มายด์ยืนยันว่าเล่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทั้งเรื่องที่ เลิกกับเพชรแล้ว และเรื่องที่โตโน่รับรู้ว่าเขายังไม่ขาดกับแฟนเก่า 

และมายด์รู้สึกผิดกับทางตัวของ ณิชา มายด์อยากขอโทษณิชาและครอบครับ ขอโทษทางเพชรและคุณพ่อคุณแม่ด้วย และเป็นห่วงเพชรจริง ๆ ขอโทษพ่อแม่และครอบครัวตัวเอง ขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดเรื่องหน้าปวดหัวและต้องคอยตามข่าวพวกนี้ กับทางโตโน่ ก็ขอไม่พูดคุยและไม่ต้องเคลียร์กันอีกแล้ว 

ซึ่งตอนแรกก็ยอมรับว่าโกรธ เพชร ในช่วงแรกตลอดเวลาที่คบกัน มายด์ อดทนมาตลอด และนี่คือสิ่งที่มายด์ต้องเจอจริง ๆ ใช่มั้ย และตอนนี้ไม่ได้โกรธแล้ว ส่วนเรื่องจะกลับไปคบกันคงยาก แต่ถ้าเป็นเพื่อนอาจจะได้ แค่เพื่อนห่าง และยังหวังดีกับเขาอยู่

Youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official

วันนี้ที่กล้ามาพูด เพราะอยากเคลียร์ทุกเรื่องราว หลังจากวันนี้แต่คนจะมองเลยว่าตัวเขาเป็นคนแบบไหน วันนี้แค่อยากออกมาพูดทุกเรื่องด้วยความจริงใจเท่านั้นเอง และขอบคุณเรื่องราวนี้ที่จะเป็นบทเรียนต่อไปในชีวิต