
เป็นเรื่องที่ถูกจับตามอง เมื่อ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง เดินหน้าเอาผิดกลุ่มมิจฉาชีพ หลังพบว่ามีการนำภาพ เสียง และคลิปวิดีโอของเธอไปตัดต่อเพื่อใช้โฆษณาขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเธอเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 เธอได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมด้วย ทนายเจมส์ นายนิติธร แก้วโต เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

โดย บุ๋ม ปนัดดา เปิดเผยว่า เธอพบว่ามีแม่ค้าออนไลน์และกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์บางรายใช้ช่องทางไลฟ์สดขายผลิตภัณฑ์ที่นำชื่อและภาพของเธอไปแอบอ้าง รวมถึงมีการโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นจำนวนมาก แม้จะเคยแจ้งเตือนให้หยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว แต่กลับถูกบล็อกและยังคงมีการขายสินค้าต่อไป เธอจึงตัดสินใจดำเนินการทางกฎหมาย โดยเน้นเอาผิดกับกลุ่มที่ไลฟ์สดขายสินค้าก่อนเป็นลำดับแรก เนื่องจากเคยได้รับการเตือนแล้วแต่ยังคงเพิกเฉย ซึ่งเธอประเมินมูลค่าความเสียหายเฉพาะค่าจ้างพรีเซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับคลิปวิดีโอที่ถูกนำไปตัดต่อกว่า 100 คลิป รวมแล้วกว่า 20 ล้านบาท

ด้าน ทนายเจมส์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหลายข้อหา ทั้งการนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หลอกลวงประชาชน ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงการจำหน่ายสินค้าที่ไม่มีฉลากภาษาไทย และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสินค้าดังกล่าวผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่ โดยหลังจากนี้จะดำเนินคดีกับผู้ที่ไลฟ์สดขายสินค้าก่อน ก่อนขยายผลไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

ทั้งนี้ ฝากถึงทุกคนให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้