ถ้ายังไหว ไปกันต่อ! จากเรื่องราวสุดมหากาพย์ ที่ต่อเนื่องยืดเยื้อมาหลายวัน และดูท่าจะไม่จบลงง่ายๆ สำหรับเรื่องของ นายฮอต หรือ ไฮโซเก๊ มิจจี้ที่รัก ที่หลายๆคนรู้จักกัน ตอนนี้เรื่องชักจะไปกันใหญ่ มีผู้เสียหาย และ เหยื่อที่ตายใจ ออกมาแฉกันเต็มไปหมด
โดยก่อนหน้านี้ ที่ทางดาราสาว คะน้า ได้ออกมาเปิดโปงเรื่องโกหก และ เรื่องโลก 2 ใบของนายฮอต เพราะไม่ต้องการที่จะให้ใครมาเจอแบบตนเอง ไม่อยากให้ใครโดนหลอกอีก หรือใครที่เป็นเหยื่อในสมการนี้ ให้กล้าที่จะออกมาปกป้องตัวเอง และเมื่อวานนี้ มีผู้เสียหายที่โดนพ่อหนุ่มหุ่นหมี ไฮโซเก๊ หลอก มาเพิ่มถึง 3 ราย
เรื่องความสัมพันธ์กับนายฮอต รู้จักนานแค่ไหน?
คุณหมอเล่าว่า
ถ้าพูดคุยตั้งแต่ตอนปลายปี 2020 คุยในแชทก่อน เริ่มมาคุยกัน เริ่มแลกไลน์ตอนหลัง ในปี 2021 หลังจากนั้นมีการนัดเจอกัน กินข้าวกัน ตอนไปเจอกันเขาไม่ได้บอกว่าเป็นใครอะไรที่ไหน แต่งตัวธรรมดา ไม่มีท่าทีอะไรให้สงสัย เขาบอกว่า ตอนนั้นเขาอยู่ในช่วงตกงานมาและ มีธุรกิจครอบครัว
ผ่านไปสักพัก เริ่มไปทานข้าวกัน แสดงท่าทางอยากขอเป็นแฟน แต่เรายังไม่ตกลง ตอนนั้นเรายังไม่คิดว่าอยากจะเป็นแฟน เพราะเราอายุมากกว่าเขาด้วย แต่หลังๆที่ตัดสินใจคบ เพราะเขาเป็นคนที่เราอยู่ด้วยเรารู้สึกสบายใจ น่าจะซื่อสัตย์นะ ความสัมพันธ์ค่อยๆพัฒนา มีการเซอร์ไพรส์ปกติเหมือนผู้ชายทั่วไป ไม่มีการโชว์ยศอะไร
หลังจากนั้นที่คบกัน ที่แปลกไป เพื่อนๆมาแจ้งเราว่า เขามีคดีติดตัวนะ ตอนนั้นคบกัน 3-4 เดือน เราบอกไม่ทราบ เขาบอกว่าเคลียร์ตัวเองจบแล้ว มันเป็นเรื่องในอดีต แม่เขาโทรมาหาเราว่า ขอโอกาสให้ลูกชาย ตอนคบกันพาเราไปเจอคนที่บ้าน บ้านเขาเราไปแค่ 1 ครั้ง
หลังจากปีแรกไม่มีอะไรเลย ขอเปนแฟนปุ๊บ วางแผนเรื่องงานแต่งงาน เอาดอกไม้มาวาง ขอแต่งตามปกติ เราเลยตอบโอเค เพราะที่ผ่านมา เขาพาเราไปเจอญาติพี่น้องบ่อยครั้ง จะไปจัดงานที่ต่างจังหวัด แต่เป็นเราจัดการเอง ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องติดโควิด ออแกไนซ์ต่างๆ ตอนนั้นมันนานมากแล้ว เขาเอาแชทออแกไนซ์มาบอกเรา ว่าเรื่องมีปัญหา หลังจากนั้นเลื่อนไป 1 เดือน จัดสถานที่เดิม ก็เหมือนมีการติดโควิดอีก 1 รอบ จำไม่ได้ว่าเป็นฝั่งเขาหรือเราที่ติด
หลังจากนั้น ก็มีครั้งที่ 3 อีกที่เลื่อนงานแต่ง อีกทั้ง มีคนทัก เรื่องอุบัตติเหตุบ้าง หรือผู้ใหญ่ทักว่าเลื่อนไปก่อนดีไหมบ้าง โดยมีแชทจากพระอาจารย์ พิมพ์แชทยาวเยียดมาให้คุณหมออ่าน
ก็ผ่านไปสัก 1 ปีกว่า ตอนที่คบกันแรกๆ หมอมีเรื่องเรื่องคดีความ 1 เรื่อง เราปรึกษาเขาว่าทำยังไงดี เขาบอกว่า มีทนายจะช่วย หลังจากนั้นเขาก็อาสาดูแลให้ พาเราไปติดต่อจริงๆ
แต่หลังจากนั้น เขาบอกจะไปติดต่อให้เอง คดีความก็ไม่คืบหน้า เสียเงินเพิ่มมากขึ้น เราต้องจ่ายเยอะขึ้น จากหลักหมื่นก็มากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆเราก็ปรึกษาครอบครัวนะ
ผ่านไปผ่านมา เขามาบอกว่า คดีจบแล้วนะ เพราะว่ามีการปลอมลายเซ็น เป็นโมฆะแล้ว เขาบอกว่า เงินที่เขาจ่ายไป เป็นเงินของเขาเอง แต่ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเป็นเงินเรา เราก็คิดว่าจบแล้ว
แต่พอเรื่องผ่านไปนานมันก็ยาวนานมาก เราไม่ได้รับเงินคืนสักที จะมีข้ออ้างมาเรื่อยๆ 2 ปี ก็ยังไม่จบ จ่ายยิบย่อยเรื่อยๆ เป็นเราที่จะต้องจ่ายค่าภาษี หลักๆเขาอ้างว่า คือค่าทำเนียม ค่าปรับต่างๆ เขาอ้างว่าเป็นทนายคิมดูแลเคสเราในช่วงปี 2565 นายฮอตอ้างว่า เก็บค่าทนายโดยรวมๆ เกินหลายล้านบาท ซึ่งทนายคิมไม่รู้เลยอะไรเลย
ความแตกได้ไง?
วันที่ 23 มีนา 2568 เพิ่งมารู้ หมอกับทนายคิมมีการนัดเจอกันจะคุยกันเรื่องน้องคะน้าด้วย พอนัดเจอทนายคิมปุ๊บ พอคุยกันพลอตเรื่องต่างกันเยอะมาก จนเรารู้ความจริงว่า เขาสร้างเรื่อง นายฮอตเป็นตัวเสี้ยมให้ทั้ง 2 ฝั่งเกลียดกัน เราเลยวางแผนว่าจะเอายังไงดี มันมีหลายคดีมาก หนูมั่นใจว่าเขาไม่ได้ติดต่อให้หนูแน่ๆ เราเลยอยากจะสืบก่อน
ในเรื่องที่นายฮอตโกหกว่า ทนายคิมโกง ซึ่งนายฮอตบอกคุณหมอว่า พี่คิมไม่ทำงานให้เราเลย อ้างว่าพี่คิมยังขอเงินเพิ่ม เป็นค่าถอนทนายเป็นหลักล้าน ทุกครั้งที่เราให้เงินเขา เป็นการโอน ซึ่งหลายครั้งมาก แต่ละสลิปมีการโอนครั้งละหลักแสนบาท
ในรายการ ได้มีการเปิดสร้อยทองหลายเส้นกลางรายการ แต่ละเส้นเรียกว่าเป็นเชือกได้เลย
คุณหมอบอกว่า นายฮอตอ้างว่าท่านเบื้องสูงให้มา ใส่ออกงานหลายครั้งแล้วด้วย ดูยังไงก็เป็นของปลอม สีหลุด ใส่จนลอกดำเต็มไปหมด มีนาฬิกา RM1103 ด้วย เก๊หมด ไม่มีของแท้เลย รวมกันไม่กี่พันบาท
แหวนเพชรก็มี ใส่บ่อยด้วยอันนี้ มีพระสมเด็จ
มาถึงเรื่องของสมุดบัญชีของเขา เราเห็นตอนแรกที่อยู่กับเรามีแค่ 2 เล่ม มีรวมๆเกือบ 100 ล้าน มีของธนาคารกรุงเทพ มี 20 ล้านบาท ของ UOB มีเงิน 100 กว่าล้านบาท กรุงศรี 40 ล้านบาท กรุงศรีอีกเล่ม 128 ล้านบาท เล่มสุดท้ายกรุงศรีมีอยู่ 60 ล้านบาท ซึ่งแต่ละเล่มมีสาขาที่กระจายแตกต่างกันไป คุณหมอยังบอกอีกด้วยว่า มีจะดำเนินคดีนายฮอตต่อแน่นอน ซึ่งทางนายฮอตเคยอ้างชื่อ พลเอกประยุทธ์ และมีการปลอมแชทท่านธรรมนัส โดยมีการเปิดแชทให้ดูกลางรายการ
ทั้งนี้ ได้มีการติดต่อโฟนอินท่านธรรมนัสกลางรายการทันที ถึงเรื่องการกล่าวอ้างในแชท โดยท่านธรรมนัสบอกว่า ไม่เป็นความจริง และแจ้งความเอาเรื่องถึงที่สุดอย่างแน่นอน
นายฮอตขู่อะไรคุณหมอบ้าง?
ก็จะมีเรื่องคดี เพราะเราไม่สะดวกไปทำเอง เขาอาสาจะทำให้เรา เป็นเรื่องนี้ที่เราต้องพึ่งพาเขา มีการอ้างว่าเป็นผู้แทนพระองค์ด้วย แต่เราไม่เชื่อแล้ว มีเอกสารราชการมา และนายฮอตอ้างว่า ต้องจำเป็นแต่งงานกับคะน้า เพราะมีจดหมายมาว่า ท่านให้แต่งกับคะน้า และท่านให้มี 2 คน เราบอกว่าไม่โอเค เขาบอกว่า อย่าพูดนะ มีมอนิเตอร์ที่มองเห็นเรา อย่าปฎิเสธนะ มีการข่มขู่ ซึ่งอันนี้เกินไป เพราะมีการพูดถึงเบื้องสูง
มาถึงน้องเกรซตัวละครใหม่อีก 1 คน ที่มาแฉวีรกรรมของนายฮอต ไฮโซเก๊ เพิ่ม โดย น้องเกรซ เล่าว่า
ประมาณปี 2022 เจอกันในแอพ เข้ามาคุยเปนพี่เป็นน้อง คุยไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเขามาจีบ พัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ไปทานข้าว เจอเพื่อนๆเขา ชวนไปบ่อยอยู่ ทานเสร็จก็กลับบ้าน เกือบ 1 ปี หลังจากนั้น พอเขาได้ทำงานในพรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษานายกฯ เลยห่างๆกัน เขาบอกว่ามรประชุมเยอะ ต้องทำภารกิจของพรรค ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่คุยแชทกันอยู่
ความสัมพันธ์ เป็นการคบแบบปกติทั่วไป แฟนกันทั่วไป เขาบอกว่า พ่อเขารู้จักกับคุณทักษิณ เป็นผู้ก่อตั้งพรรคด้วยกัน สนิทกับท่านนายกฯปัจจุบัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เขามีธุรกิจส่วนตัว จิวเวอร์รี่ของคุณพ่อเขา คุณแม่ทำงานเรือนจรุงกับเครือญาติ ไม่เคยรู้ว่า พ่อเป็นพระ มีช่วงหนึ่งเขาบอกว่า พ่อเขาป่วย นอนโรงพยาบาล แล้วมาถามเราว่ารู้จักหมอที่ช่วยเรื่องมะเร็งไหม และจะคุยกันเรื่องพ่อป่วย
ผ่านไปเขาบอกพ่อเขาตาย แต่จริงๆพ่อเขายังอยู่ มีการจัดงานศพที่วัดพระศรีฯ แต่ไม่มีรูปให้เราเห็น
แล้วความสัมพันธ์หลังจากนั้นระหว่างน้องเกรซกับนายฮอต ?
เขาก็ส่งเอกสารจากในวังมาให้เรา เป็นเอกสารในไลน์ที่เขาคุยกับในวัง บอกว่า ได้รับการแต่งตั้ง มีรูปการแต่งตัวเต็มยศส่งให้เราอยู่บ่อยๆ บอกเราว่า ท่านรองเลขาส่งกรอบรูปมาให้เป็นของขวัญวันเกิด และยังมีการส่งรูปว่ากำลังประชุมสรุปงานอยู่ และรูปภาพต่างว่ากำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องโกหกหมดเลย
ช่วงปลายปี 2023 จะเริ่มยืมเงินเราไปซื้อของบริจาคให้กองทัพอากาศ
ไปสำรองจ่ายการ และจะเบิกมาคืน แต่ไม่คืนเลย รวมๆเงินทั้งหมดเกือบๆ 2 แสนบาท ช่วงต้นปี 2567 จะมีน้องคนหนึ่งทักมาหาเรา เป็นจุดเริ่มต้นให้เราไม่โอเคว่า เห็นรูปเขากับหมอสกิน และเราได้นัดน้องคนนั้นคุยกัน แล้วเราเลยรู้ว่าเขามีการคุยซ้อน เขาก็บอกว่า เป็นการคุยแป็บเดียว และเลิกคุยไปแล้ว ส่วนเรื่องหมอคนนั้นเป็นญาติห่างๆกัน สนิทกันตั้งแต่เด็กๆ ไปปาร์ตี้ กินข้าว ปกติ มีการพาเราไปเจอเพื่อนบ้าง เจอนายทหารอากาศบ้าง ซึ่งทางน้องเกรซมีการแจ้งความเรียบร้อยแล้ว
