กลายประเด็นที่หลายคนจับตามอง หลังวันนี้ (31 ม.ค. 68) นักร้อง นักแสดง หนุ่ม ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ พร้อมด้วย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ได้เดินทางไปยัง สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พิธีกรชื่อดัง อย่าง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ปมปล่อยคลิปเสียงเรียกเงิน 20 ล้าน จาก บอสดิไอคอน กรุ๊ป และ อี้ แทนคุณ กรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับคดีลงทุนเทรดหุ้นดูไบ 60 ล้านบาท เป็นเหตุให้ ฟิล์ม รัฐภูมิ เสียหาย
ซึ่งต่อมา หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ใจเอ็งมันได้ แต่หน้าเอ็งมันด้าน” ทำเอาหลายคนสงสัยว่าหมายถึงใคร และเกี่ยวอะไรกับกรณีของ ฟิล์ม รัฐภูมิ หรือไม่
และล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับกรณีของ ฟิล์ม รัฐภูมิ ในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดย หนุ่ม กล่าวว่า “ในกรณีที่คุณ ฟิล์ม รัฐภูมิ ไปแจ้งความแล้วมีชื่อผมวันนี้ ผมขอบอกผ่านทางรายการตรงนี้ไปถึงคุณ ฟิล์ม และ อาจารย์ประมาณ เมื่อไหร่ที่ผมรับหมายเรียกจากตำรวจนะครับ ผม กรรชัย กำเนิดพลอย ผมจะแจ้งความกลับทันที ในข้อหาแจ้งความเท็จ และกลั่นแกล้งให้บุคคลอื่นได้รับโทษทางอาญา เมื่อไหร่ที่รับปุ๊บ ผมสวนตับแตกเหมือนกัน โลกนี้มันต้องมีความยุติธรรมครับ กรณีที่มีบุคคลๆ หนึ่ง บอกว่าทำให้คุณฟิล์มเสียหาย แล้วการที่คนหนึ่งเอาชื่อบุคคล อีกคนหนึ่งไปแอบอ้างแล้วเรียกเงิน 20 ล้าน คนนั้นเขาไม่เสียหายเหรอครับ ก็ต้องตอบคำถามนี้กับสังคมนะครับ ประมาณนี้ครับ เปลืองเวลา”
หนุ่ม กรรชัย กล่าวต่อว่า “ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ด้วย ผมเองก็มองว่ามันเป็นสิทธิ์ของคุณ ฟิล์ม ถ้าการที่เขาเอาสิ่งที่ผมพูดบอกว่าไปทำให้เขาเสียหาย เขาก็มีสิทธิ์ไปแจ้งความ เป็นสิทธิ์โดยพื้นฐานของประชาชนคนไทย ระบบอาญาในเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา ถ้าคุณคิดว่าได้รับความเสียหาย ก็สามารถไปแจ้งความดำเนินคดีได้ แต่ขณะเดียวกัน ถ้าไม่ตรงข้อเท็จจริง ก็อาจจะมีโทษอื่น ๆ ตามมาเหมือนกัน
ที่สำคัญที่สุด ผมพูดในฐานะตัวผมเองที่วันนี้มีส่วนเกี่ยวพันมาถึงผม หลายคนอาจไม่เข้าใจ อยากให้พวกคุณที่ไม่เข้าใจ กลับไปคิดว่าถ้าวันหนึ่งคุณถูกเอาชื่อไปแอบอ้างแล้วไปเรียกเงินคนอื่นเขา การที่คุณเองออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเองว่าไม่ใช่แบบนั้น แล้วคนนั้นกลับมาแจ้งความคุณ คุณคิดว่าเป็นธรรมกับคุณไหม บ้านเมืองเราจะอยู่ในวิถีที่ว่า อ๋อ ใครจะเอาชื่อใครไปแอบอ้างทำมาหากินก็ได้ เมื่อไหร่ที่เขาออกมาพูด มาต่อสู้ว่าไม่ใช่ผมนะ กลับกลายเป็นว่าบุคคลนั้นไปแจ้งความเราซ้ำ จะอยู่กันแบบนี้เหรอ มันถูกต้องเหรอครับ
ผมไม่ได้ชี้นำสังคมนะ ผมคิดว่าสังคมไทยไม่ได้กินหญ้า แล้วเชื่อว่ากฎหมายไม่ได้มีเอาไว้ให้ใครเอาไปเป็นเครื่องมือทำอะไรได้ ทุกสื่อผมชี้แจงตรงนี้นะ ผมเองก็ไม่ได้ไปก้าวล่วงคุณ ฟิล์ม กับ อ.ประมาณ นะครับ แต่ว่าทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี เพราะเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวพัน ผมเป็นบุคคลที่มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้เต็ม ๆ คุณเอาผมไปอ้าง วันหนึ่งผมปกป้องสิทธิ์ แต่คุณกลับมาแจ้งความผม ผมก็มีสิทธิ์แจ้งความกลับเพื่อปกป้องสิทธิ์ของผมด้วยเหมือนกัน ถูกต้องไหมครับ”
งานนี้จะเป็นอย่างไร เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม แอดจะนำมารายงานให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง