เส้นทางไม่สวยหรู สู่สาวอายุเพียง 24 ปี กับฟาร์มกระบือ 123 ตัว

จากครอบครัวรับจ้างสู้เจ้าของฟาร์มกระบือกว่า 123 ตัว

ส้นทางไม่สวยหรูแต่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของคนในครอบครัว คุณอารียา วงรินยอง น้องเบียร์ อายุเพียง 24

เจ้าของ อารียาฟาร์ม กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายกับคำถามมากมายทั้งดีและไม่ดีแต่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยทำให้น้องเบียร์ท้อได้เลย วันนี้จันลั่นทุ่งจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ อารียาฟาร์ม กับน้องเบียร์เจ้าของฟาร์มเพียงอายุ 24 ปี

น้องเบียร์เล่าว่าเส้นทางกว่าจะมาเป็น อารียาฟาร์มนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเพราะที่บ้านมีฐานะจนมากพ่อแม่ก็ทำอาชีพรับจ้างทั่วไปทั้ง ก่อสร้าง ทำสวน ขุดมัน ทำอ้อย ซึ่งครอบครัวน้องเบียร์มีพี่น้อง 2 คนก็คือเบียร์และพี่สาว ทั้งสองคนเรียนโรงเรียนรัฐบาลตั้งแต่เล็กจนโต ต่อมาคุณพ่อของเบียร์เปลี่ยนอาชีพมาทำอาชีพจับกุ้งซึ่งช่วงนั้นถือว่าเป็นช่วงจุดเปลี่ยนของชีวิตเพราะสามารถสร้างเงินได้ถึงวันละ 2,000-4,000 บาท

หลังจากนั้นพอเริ่มเก็บเงินได้ทางที่บ้านของเบียร์ก็เริ่มซื้อควาย โดยเริ่มต้นซื้อที่ 2 ตัวตามงบที่มี ซึ่งช่วงนั้นเบียร์เองก็เริ่มตักขี้ควายตากแห้งขาย ซึ่งในช่วงนั้นเบียร์ก็เริ่มใกล้จะจบ ม.6 แล้ว ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เบียร์ทำงานเก็บเงิน หลังจากเลิกเรียนเบียร์ก็จะออกไปหางานทำพิเศษ ทั้งเป็นเด็กเสริฟร้านส้มตำ ย่างปลาเผา รับจ้างทำสวน แล้วแต่งานที่จะเข้ามา พอเบียร์ใกล้จบ ม.6 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทางบ้านไม่มีเงินทำให้เบียร์ไม่สามารถที่จะไปเรียนต่อมหาลัยกับเพื่อนได้ พ่อแม่บอกกับเบียร์ว่าพ่อแม่ส่งไม่ไหวนะลูก แต่ตอนนั้นเบียร์ก็ไม่ขัดข้องอะไรและไม่เคยคิดน้อยใจ ต่อมาเบียร์ได้ทราบมีโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลและสามารถผ่อนค่าใช้จ่ายได้เบียร์จึงตัดสินใจเรียนหลักสูตรนี้

โดยเบียร์เริ่มทำงานกะละ 12 ชั่วโมงได้เงิน 450 บาท ดูแลผู้ป่วยติดเตียง เบียร์ทำงานควงกะ 4 วัน 4 คืน ก็ทำมาแล้ว ทำได้ประมาณ 1 ปีจนรู้สึกว่าไม่ไหว เบียร์เลยตัดสินใจลาออกโดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับ แต่โชคยังดียังมียังมีรุ่นพี่แนะนำงานเกี่ยวกับการดูแลปู่ป่วยติดเตียง โดยช่วงนั้นงานค่อยข้างดี พอมีเงินเหลือเก็บ สมัยแรกที่เลี้ยงควาย ที่บ้านเลี้ยงกันที่กลางเขื่อนนอนเพิงสังกะสิ ไฟฟ้าก็ไม่มี ห้องน้ำก็เป็นสังกะสีล้อมเป็นส้วมธรรมดา ตอนนั้นเริ่มีความ 15 ตัว ซื้อเก็บมาเรื่อย เบียร์เคยถามพ่อว่าทำไมไม่ขายออกไปบ้าง พ่อตอบมาว่าก็เลี้ยงไว้เป็นมรดกให้ลูกๆ นั่นแหละ พ่อยังบอกอีกว่า พ่อเหนื่อยแต่พ่อมีความสุขนะลูก แค่นี้เบียร์ก็รู้แล้วว่าอะไรทำให้พ่อมีความสุขที่สุด เบียร์จึงตัดสินใจกลับมาพัฒนาที่บ้านโดยเริ่มออกไปศึกษาตามฟาร์มต่าง ๆ ไปดูงานตามงานประกวด เรียนรู้ปรับสายพันธุ์ และเริ่มซื้อควายตามลักษณะที่ตลาดต้องการ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทุ่มเงินที่ได้มาซื้อควายเกือบทั้งหมด เริ่มขยายโรงเรือน ปรับพื้นที่ ภายใน 1 ปีครึ่ง มีควายทั้งที่ซื้อมารวมกับลูกควายที่คลอด รวมแล้ว 116 ตัว

ผ่านมา 3 ปี ปัจจุบันมีควาย 123 ตัว มีโรงเรือนและโครงสร้างเป็นระบบฟาร์ม แต่เบียร์ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม บ้านหลังเดิม และรถเก่า ๆ ที่ใช้ขนหญ้า ตอนนี้เบียร์ดูบริหารฟาร์มเองเต็มตัว ทั้งหมดที่เบียร์บอกเล่ามานั้น เพราะเบียร์จะเจอคำพูดคนที่ชอบตัดสินเบียร์มากมายว่า ใช่สิก็ต้นทุนชีวิตคุณดีกว่าคนอื่น ใช่สิบ้านคุณรวยพ่อแม่สร้างไว้รอคุณแล้ว คุณเกิดมาโชคดี ซึ่งปกติเบียร์ไม่เคยโต้ตอบ แต่วันนี้เบียร์ก็อยากมาอธิบาย เขียนบอกเล่าเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับใครอีกหลายคน ที่ชอบพูดถึงเรื่องต้นทุนชีวิตคนเราที่ไม่เท่ากัน!!