อาจมีคนเคยบอกว่า การทำเกษตรต้องลงทุนเยอะ ต้องซื้อสิ่งนั้นหาสิ่งนี้ที่ล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น แต่พวกเขาสองคนกลับคิดแตกต่าง การทำเกษตรไม่จำเป็นต้องลงทุนมาก เพียงหาสิ่งรอบตัว ก็สามารถทำเกษตรได้แล้ว ขอมีเพียงใจรักในการทำเกษตรก็พอแล้ว
จันลั่นทุ่งวันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณต้าร์ โสภิตา อบเชย และ คุณมะหมี่ ชลิดา จันทร์ปา เจ้าของฟาร์ม Roots to leaves Organic ที่มีจุดเริ่มต้น คือ หลังจากเรียนจบคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก็อยากทำอาชีพที่อยู่แถวบ้าน เพื่อให้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว กับคนที่เรารัก จึงได้เอาสิ่งที่เรียนมาทำเป็นอาชีพ ปลูกผักอินทรีย์แบบปลอดสารพิษขาย
เนื่องจากจบใหม่ก็ยังมีเงินไม่มากนัก เลยมองหาวัสดุธรรมชาติที่ใช้ได้ โดยทุกอย่างที่ทำขึ้นมาเองนั้น ล้วนเป็นอินทรีย์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำหมัก ก็มาจากการทำน้ำหมักขึ้นเอง อย่างน้ำหมักมูลวัว น้ำหมักหอย น้ำหมักปลา น้ำหมักหน่อกล้วย และอีกมากมาย แล้วที่สำคัญยังมีแปลงผัก ซึ่งบางคนอาจลงทุนซื้อแปลงสำเร็จรูป หรือบางคนต้องซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาสร้าง แต่พวกเธอสร้างแปลงผักขึ้นเองจากไม้ไผ่ที่มีใกล้ตัว โดยการใช้ไม้ไผ่มาทำแปลงผัก ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ต้นทุนไม่สูงแถมอายุการใช้ทีหนึ่ง ก็ได้ประมาณ 3 – 5 ปี ซึ่งการทำเองทั้งหมดถือว่าประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมาก
สำหรับใครที่อยากทำแปลงผักจากไม้ไผ่ ทางคุณต้าร์กับคุณมะหมี่ ก็ได้แนะนำให้ใครก็ตาม มาลองทำซึ่งมีเพียงเทคนิคง่ายๆ คือ ไผ่ที่เลือกใช้จะเป็นไผ่ซางแก่ เพราะไผ่ซางค่อนข้างที่จะมีลักษณะลำตั้งตรง ไม่คดโค้งจนเกินไป และมีขั้นตอนการทำดังนี้
1.เลือกตัดไม้ไผ่แก่ที่มีขนาดกลาง เส้นผ่าศูนย์กลาง 7-10 เซนติเมตร ลำต้นตรงไม่โค้งงอจนเกินไป
2.นำไม้ไผ่มาตัดไว้มาวัดขนาดตามขนาดแปลงที่ต้องการโดยจะแบ่งเป็นความกว้าง และความยาวของแปลงผัก ซึ่งที่สวนของคุณต้าร์คุณมะหมี่ ทำแปลงขนาด 30 คูณ 300 เซนติเมตร
3.ทำหลักแปลงในแต่ละด้านจะใช้หลัก 4 หลัก ในการตอกเพื่อทำเป็นช่องใส่ไม้ ทำหลักสูงกว่าความสูงแปลงที่ต้องการประมาณ 10-15 เซนติเมตร เพื่อที่จะตอกลงไปในดิน
4.วัดขนาดแปลงในพื้นที่ จากนั้นนำหลักไม้ไปบริเวณมุมแปลงเพื่อให้วัดระยะในการตอกหลักที่จะทำเป็นช่องใส่ไม้
5.นำหลักที่ทำไว้มาปักเป็นช่องใส่ไม้ โดยวัดจากหลักที่ปักเป็นมุมเข้ามาประมาณ 5-10 เซนติเมตรเพื่อให้หลักหนีบท่อนไม้ไผ่ที่จะใส่ลงไป
6.นำไม้ไผ่ที่ตัดเป็นท่อนมาใส่ในช่องใส่ไม้ ใส่ไม้ตามความสูงที่เราต้องการ แต่ต้องไม่สูงเกินหลักไม้ที่เราตอกไว้ เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับมัดปลายหลักป้องกันการขยับของท่อนไม้
7.ปักหลัก และวางท่อนไม้ไผ่ตามความสูงที่ต้องการให้ครบทุกด้าน จากนั้นนำเชือกมามัดปลายหลังเพื่อยึดไม้ก็เป็นอันเสร็จ
สวนแปลงผักจากไม้ไผ่ ของคุณต้าร์กับคุณมะหมี่นั้น ตอนนี้รายได้ยังอาจไม่มั่งคงมากนัก ด้วยที่ตนเองเพิ่งทำได้ไม่นานยังไม่มีลูกค้าประจำ แต่แนวโน้มเรื่องการขายก็มีเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่สำคัญคือ เมื่อมาได้ทำอาชีพนี้แล้ว ถือว่ารู้สึกสนุกที่ได้ทำเกษตร และมันทำให้รู้ว่าการทำเกษตรมันสามารถต่อยอดไปได้หลายทางมากๆ ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ ความงาม หรือแม้แต่ในขนม มันทำให้อยากลองทำเกษตรในมุมที่ไม่เคยทำมาก่อนมันจึงทำรู้สึกสนุกไปกับคำว่าเกษตร แล้วเราก็ไม่ต้องไปคิดว่าพอมาทำธุรกิจเองแล้วต้องลงทุนสูง เพียงใช้สิ่งที่มีรอบตัวมาประยุกต์ใช้ ก็สามารถเป็นอาชีพที่สร้างความสุขให้ได้แล้ว