
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือน ม.ค. 2568 มีจำนวน 8,862 ราย เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2567 มีทุนจดทะเบียน 24,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับ ธ.ค.2567 โดยธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร และเดือน ก.พ. มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนทุนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ราย ทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท ประกอบกิจการ ผลิต จำหน่าย ส่งออก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
ทั้งนี้ อัตราส่วนการจัดตั้งธุรกิจต่อการเลิกธุรกิจในเดือน ม.ค. 2568 อยู่ที่ 6:1 ซึ่งถือว่ามีการจัดตั้งใหม่ที่เติบโตสูง ขณะที่การเลิกยังต่ำ และเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราส่วนเฉลี่ย ปี 2567 อยู่ที่ 4:1 และ 5 ปี ย้อนหลัง (2562-2566) อยู่ที่ 3:1 แสดงให้ถึงแนวโน้มที่ดีของภาคธุรกิจในปี 2568 โดยคาดว่า ไตรมาสแรกปี 2568 จะมีธุรกิจจดทะเบียนจัดตั้งใหม่อยู่ที่ 27,000-28,000 ราย คิดเป็น 30% ของยอดจดทะเบียนทั้งปี และตลอดปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 90,000-95,000 ราย
รัฐบาล ได้ทำนโยบายมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วส่งผลให้การเติบโตของประเทศ GDP ไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมาสูงถึง 3.2% และในปีนี้ได้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติ และยืนยันถึงความพร้อมในการสนับสนุนภาคธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง รัฐบาลเชื่อมั่นว่าปี 2568 จะเป็นอีกปีที่ภาคธุรกิจไทยเดินหน้าสู่ความแข็งแกร่งและยั่งยืน จนทำให้นักธุรกิจจำนวนมากให้ความมั่นใจได้