(วันนี้ 9 เม.ย.68) สงครามการค้าสุดดุเดือด ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนที่ทรัมป์ได้มีการประกาศว่า จะเก็บภาษีเพิ่มอีก 34% สำหรับสินค้าจากจีน จากที่ก่อนหน้านี้ได้ขึ้นภาษีจีนไปแล้ว และล่าสุดจะเรียกเก็บจากจีน เพิ่มอีก 54% หากจีนไม่ยอมรับมาตรการภาษี อาจสูงสุดถึง 104% หากทรัมป์ดำเนินการตามแผนเพิ่มภาษีแบบนี้ อาจจะทำให้ราคาสินค้าที่ผลิตในจีน อย่าง iPhone, iPad, MacBook และ AirPods ปรับราคาสูงขึ้น จากภาษีนำเข้าที่หฤโหด เนื่องจาก Apple ใช้จีนเป็นฐานการผลิตสินค้าเกือบทั้งหมด
ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศ Bloomberg รายงานว่า ลูกค้าในสหรัฐฯ กำลังแพนิคและตื่นตระหนกอย่างมาก กับการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์จากหลายประเทศ พนักงาน Apple Store หลายรายเผยว่า ช่วงวันที่ 5-6 เมษายนที่ผ่านมา ลูกค้าจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาซื้อสินค้าคล้ายกับบรรยากาศในช่วงเทศกาลลดราคา แม้ทาง Apple จะยังไม่มีคำชี้แจงหรือแนวทางตอบคำถามให้กับพนักงานหน้าร้านโดยตรง เพราะลูกค้า “เกือบทุกราย” ต่างสอบถามถึงประเด็นการขึ้นราคา iPhone เพราะหลายสื่อต่างคาดการณ์ว่า ภาษีใหม่ทรัมป์อาจส่งผลให้ iPhone จะถูกปรับขึ้นภาษี 30-40% เนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงผลิตในจีน ซึ่งถูกเรียกเก็บภาษีกว่า 54%
ด้าน The Times of India รายงานว่า Apple ได้เริ่มสำรองสินค้าไว้ล่วงหน้า โดยมีการส่ง iPhone และอุปกรณ์อื่น ๆ จำนวนมากจากอินเดียมายังสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2025 รวมถึงนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นด้วย แม้จะอยู่ในช่วงฤดูที่ยอดขายมักชะลอตัว
ขณะเดียวกัน เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เผยว่า Apple วางแผนพึ่งพาการนำเข้า iPhone จากอินเดียมากขึ้น เนื่องจากภาษีนำเข้าจากอินเดีย (26%) ต่ำกว่าจีนเยอะมาก (54%) อาจจะช่วยบรรเทาภาระต้นทุนได้ในระดับหนึ่ง โดยมีการคาดการณ์ว่า iPhone ที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ อาจมีถึง 50% ที่มาจากโรงงานในอินเดีย
ที่มา : MacRumors