วันนี้ (21 พ.ย.67) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ว่า ที่ประชุมได้รับทราบ และได้หารือการเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) รอบใหม่ ซึ่งจะเริ่มก่อนสิ้นเดือนมี.ค.68
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในรอบใหม่ให้กระบวนการลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติ รู้ผลได้ภายในก.ค.68 เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งงบประมาณในปี 69
เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบัน 14.5 ล้านคน และอีก 10 ล้านคน เป็นกลุ่มใหม่ ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมากจากประชาชนที่เพิ่งอายุครบ 18 ปีและกลุ่มที่เคยลงทะเบียนในรอบก่อนแต่ไม่ได้รับสิทธิ
“ตัวเลขผู้ลงทะเบียนจะใกล้เคียงกับรอบก่อนเมื่อปี 65 ที่มี 20 กว่าล้านคน แต่สำหรับการลงทะเบียนรอบนี้เมื่อผ่านการคัดกรองแล้ว คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิลดลง เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น และรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนบางกลุ่มหลุดพ้นจากความยากจน” นายจุลพันธ์ กล่าว
รายละเอียดการลงทะเบียนรอบใหม่
- สำหรับรายละเอียดการลงทะเบียน เบื้องต้นกลุ่มผู้มีสิทธิเดิม 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ รัฐบาลจะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิให้อัตโนมัติ
- ส่วนกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน จะต้องมีการลงทะเบียน โดยจะเริ่มได้ก่อนสิ้นเดือนมี.ค.68
ทั้งนี้ ได้มีการมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชันทางรัฐ และศึกษาขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
เตือนผู้มีสิทธิปัจจุบัน รีบยืนยันตนก่อนหมดเขต
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การตรวจสอบสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน พบว่ามีประชาชนที่ได้รับสิทธิ แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ไปยืนยันตัวตน และไม่ได้รับสวัสดิการกว่า 1 ล้านคน ซึ่งขอแจ้งให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าว ไปตรวจสอบสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ https://welfare.mof.go.th
“จากนั้นให้เร่งดำเนินการยืนยันตัวตนผ่านธนาคารกรุงไทย ภายใน 26 ธ.ค.นี้ เพื่อรับสิทธิสวัสดิการที่เหลือ แต่จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง”นายจุลพันธ์ กล่าว
เร่งทบทวนคุณสมบัติเข้มข้นขึ้น
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทบทวนเกณฑ์คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิให้มีความรัดกุมมากขึ้น ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ แล้วกลับมาเสนอภายใน 1 เดือน ซึ่งในด้านเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีอยู่เหมือนเดิม
ขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน จะทำให้สามารถตรวจสอบใช้ได้จริง อีกทั้งจะดูรายละเอียดในเรื่องสินทรัพย์ การถือครองสลากและพันธบัตรด้วย อีกทั้งคณะกรรมการยังให้ทบทวนสิทธิและสวัสดิการของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้เหมาะสม
เช่น วงเงินการซื้อของจากร้านธงฟ้า ค่าแก๊ส ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้สิทธิเพียง 40% และยังรวมถึงค่าเดินทางด้วย เช่น โดยปัจจุบันยังพบว่ามีการใช้สิทธิคงเหลืออยู่จำนวนมาก ให้สศค. กลับไปพิจารณาในประเด็นนี้ และให้ไปศึกษาเรื่องการรีสกิลอัพสกิล เพื่อให้หลุดพ้นความยากจนด้วย
“รวมถึงที่ประชุมยังได้หารือถึงการทบทวนสิทธิ โดยจะมีการทบทวนเปิดลงทะเบียนในทุก 2 ปีตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการทบทวนคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิทุกๆ 8 เดือน หากหลุดพ้นจากความยากจนแล้ว ก็จะโดนตัดสิทธิระหว่างทาง” นายจุลพันธ์ กล่าว