วันนี้ (18 ต.ค.67) เวลา 09.35 น. รายงานจาก สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับราคาขึ้น 250 บาท ทำให้ทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 42,250 บาทต่อบาททองคำ ขายออกบาทละ 42,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่ราคาทองคำรูปพรรณ รับซื้อบาท 41,492.92 บาท และขายออกบาทละ 42,850 บาท
เมื่อเทียบกับปิดตลาดวานนี้ (17 ต.ค.67) ราคาทองคำแท่งขายออกที่ 42,100 บาทต่อบาททองคำ รูปพรรณขายออกอยู่ที่ 42,600 บาทต่อบาททองคำ
บทวิเคราะห์จาก “ฮั่วเซ่งเฮง” ระบุว่า แนวโน้มราคาทองปรับตัวขึ้น ปิดตลาดที่ระดับ 2,692 ดอลลาร์ ราคาทองปรับตัวขึ้น +18.94ดอลลาร์ คิดเป็น +0.70% Gold spot สูงสุด – 2,696 ดอลลาร์ ต่ำสุด – 2,673 ดอลลาร์ ราคาทองคำแท่ง สูงสุด – 42,100 บาท ต่ำสุด – 42,050 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ทำ All-Time High ที่ระดับ 2,696 ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากสถานการณ์ตะวันออกกลางขยายวงกว้าง รวมทั้งความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. อย่างไรก็ตามมีปัจจัยลบ จากยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ดีเกินคาด ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนก.ย. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.45 ล้านยูนิต และ 1.35 ล้านยูนิตตามลำดับ
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยก high และ low อย่างต่อเนื่อง และสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 2,685 ดอลลาร์ ไปสู่ All-time high ใกล้ 2,700 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำ โดย indicator ของ MACD เกิด Bullish MACD บ่งชี้การปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ให้ระวังอาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้าง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,685 และ 2,670 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,710 และ 2,720 ดอลลาร์
หากเข้าซื้อเก็งกำระยะสั้น แนะนำเปิดสถานะซื้อบริเวณ 2,670 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,660 ดอลลาร์ และ Let Profit Run
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 42,150 และ 42,050 บาท
แนวต้าน : 42,350 และ 42,400 บาท
ราคาทองคำแท่งยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น ตามราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น และยังได้อานิสงค์จากเงินบาทอ่อนค่า รวมถึงจากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่งจาก MACD เกิด Bullish MACD หากเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำเข้าซื้อที่บริเวณ 41,700 บาท