ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.25% มาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี เมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 โดยให้มีผลทันที
เพื่อตอบรับนโยบายดังกล่าว ธนาคารภายใต้การกำกับของรัฐ (SFIs) และธนาคารพาณิชย์ รวมจำนวน 9 แห่งได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงตาม เพื่อสอดรับกับนโยบายทางการเงิน
ธนาคารที่ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้
1.ธนาคารไทยพาณิชย์
ประกาศปรับดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 3 มี.ค.68 ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.325% เป็น 7.075% ต่อป
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.175% เป็น 7.075% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.925% เป็น 6.825% ต่อปี
2.ธนาคารกรุงไทย
ประกาศปรับดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 3 มี.ค.68 ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 7.270% ต่อปี เป็น 7.020 % ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 6.925% ต่อปี เป็น 6.825 % ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 7.445% ต่อปี เป็น 7.345 % ต่อปี
3.ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี)
ประกาศปรับดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 5 มี.ค.68 ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 7.60% ต่อปี เป็น 7.35% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 7.60% ต่อปี เป็น 7.35% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดลงจากปัจจุบัน 7.705% ต่อปี เป็น 7.605% ต่อปี
4.ธนาคารกรุงเทพ
ประกาศปรับดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 5 มี.ค.68 ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับเป็น 6.825% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เป็น 7.10% ต่อปี
- เอ็มอาร์อาร์ หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เป็น 6.95% ต่อปี
5.ธนาคารกรุงศรี
ประกาศปรับดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 7 มี.ค.68 ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลงจาก 7.155% เป็น 7.055%
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลดลงจาก 7.325% เป็น 7.075%
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดลงจาก 7.275% เป็น 7.175%
6.ธนาคารออมสิน
ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR และ MOR ลง 0.25% ต่อปี ให้มีผลวันที่ 5 มี.ค. – 31 ส.ค.68 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ (MLR) ลดเหลือ 6.65%
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลดเหลือ 6.495% ต่อปี
โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. – 31 ส.ค.68 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง - อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้ารายย่อย (MRR) ยังคงอัตราเดิมที่ 6.595% ต่อปี เนื่องจากที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้ปรับลดดอกเบี้ยมาก่อนหน้านี้แล้ว
7.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR และ MOR ลง 0.25% ต่อปี ให้มีผลวันที่ 5 มี.ค. – 31 ส.ค.68 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลง 0.10% ต่อปี จากปัจจุบัน 6.250% ต่อปี เป็น 6.150% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลดลง 0.25% ต่อปี จากปัจจุบัน 6.40% ต่อปี เป็น 6.150% ต่อปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. – 31 ส.ค.68 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง - อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ยังคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ที่ 6.545% ต่อปี เนื่องจากที่ผ่านมา ธอส. ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว
8.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ประกาศปรับดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 7 มี.ค.68 ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลดลง 0.15% ต่อปี จาก 6.875% ต่อปี มาอยู่ที่ 6.725% ต่อปี •อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าประเภทเงินเกินบัญชี (MOR) ลดลง 0.25% ต่อปี จาก 6.875% ต่อปี มาอยู่ที่ 6.625% ต่อปี
9.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)
ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลง 0.10% มีผลวันที่ 10 มี.ค.68
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลง 0.10% ต่อปี เหลือ 6.25% ต่อปี