วันนี้ (3 เม.ย.68) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยพฤติกรรมในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์ ปี 2568 ว่า คาดเงินสะพัด 134,631.73 ล้านบาท ขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เงินสะพัด 128,834.19 ล้านบาท ถือว่าเงินสะพัดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาที่เงินสะพัด 69,005.48 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า โดยมูลค่าการใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์ปีนี้ กลุ่มตัวอย่างที่ตอบว่าจะใช้จ่ายลดลงมีสัดส่วนเพียง 5% หรือน้อยสุดนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา และในประเด็นการวางแผนท่องเที่ยว กลุ่มตัวอย่างตอบว่า จะออกไปเที่ยว 72.1% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา
ดังนั้น ผลสำรวจสะท้อนว่าสงกรานต์ปีนี้น่าจะมีความคึกคัก แต่คนยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ดี ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว สำหรับผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ เบื้องต้นยังเห็นภาพไม่ชัดเจน แต่หากมีการขึ้นภาษีตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.นี้ ก็ยังมองว่าในช่วงสัปดาห์สงกรานต์ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก ทั้งนี้ อาจจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า
“การสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงสงกรานต์ปี 2568 ยังไม่นับรวมผลของเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่หลังสำรวจเราได้ทบทวนสอบถามไปยังหอการค้าภาคต่าง ๆ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน พบว่า อาการอาฟเตอร์ช็อกที่เป็นอาการของความตระหนกตกใจยังพอมีอยู่” นายธนวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ หลายภาคไม่กระเทือน มีกระเทือนหลัก ๆ คือ กรุงเทพฯ และภาคเหนือ โดยจากการสอบถามพบว่า ในส่วนของคนไทยการจับจ่ายใช้สอยไม่กระทบกระเทือนมาก คิดว่าตัวเลข 134,000 ล้านบาทยังใช้ได้อยู่ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังต้องติดตามเรื่องเที่ยวบิน การยกเลิกที่พักต่าง ๆ ต่อไป