
วันนี้ (11 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีวาระสำคัญที่เข้าสู่การพิจารณาคือการกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางอื่นของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาในวันนี้
เบื้องต้นสำหรับโครงการมาตรการแก้หนี้ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์คือ หนี้ได้รับการปรับโครงสร้างสามารถชำระได้ และเมื่อสามารถชำระได้แล้วให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพิ่มเติมได้ โดยจะเข้าช่วยเหลือลูกหนี้ 3 กลุ่ม
ข่าวน่าสนใจอื่น
อาทิ 1.หนี้บ้าน 2.หนี้รถ 3.หนี้เพื่อประกอบอาชีพ SMEs โดยจะพักจ่ายดอกเบี้ยให้เป็นระยะเวลา 3 ปี ให้กับกลุ่มลูกหนี้ที่เป็น NPL มาไม่เกินกว่า 1 ปี โดยปิดวันนับยอดหนี้ 1 ปี ไม่เกินวันที่ 31 ต.ค.67
แบ่งเป็นกลุ่มหนี้บ้าน มีจำนวนลูกหนี้ที่เข้าข่ายจำนวน 4.6 แสนบัญชี มูลหนี้รวม 4.8 แสนล้านบาท กลุ่มหนี้รถยนต์ 1.4 ล้านบัญชี มูลหนี้รวม 3.7 แสนล้านบาท และกลุ่มหนี้เอสเอ็มอี มีลูกหนี้เข้าข่ายจำนวน 4.3 แสนบัญชี มูลหนี้รวม 4.54 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ แหล่งเงินที่จะใช้ รัฐบาลจะร่วมกับสถาบันการเงิน โดยจะลดอัตราเงินนำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) จากธนาคารพาณิชย์ลงครึ่งหนึ่งเหลือ 0.23% ต่อปี จากเดิม 0.46% ต่อปี เพื่อนำเงินนี้มาช่วยจ่ายดอกเบี้ยแทน ทำให้ผู้ที่ชำระหนี้สามารถจ่ายชำระเงินต้น ซึ่งสถาบันการเงินจะใส่เงินเข้ามาตรงนี้ส่วนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ภายหลังจากการประชุม ครม.แล้วเสร็จ ช่วงเวลา 14.00 น. ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง, นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.,
ร่วมด้วย นายผยง ศรีวนิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย และนายวิทัย รัตนากร ประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จะแถลงข่าวมาตรการแก้หนี้ โครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’
ทั้งนี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) และหนังสือแสดงเจตนารมณ์ ระหว่าง กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย (TBA) และสมาคมธนาคารนานาชาติ (AIB)
