เฟดคงอัตราดอกเบี้ย ที่ 4.25-4.50% มั่นใจเศรษฐกิจสหรัฐฯ สดใส

FOMC มีมติเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 4.25-4.50% หลังจากปีที่แล้ว ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งติดต่อกัน เท่ากับ 1% “เจอโรม พาวเวล” มั่นใจคุมเงินเฟ้อได้ เมิน “ทรัมป์” สั่งลดดอกเบี้ย

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมระหว่างวันที่ 28-29 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งติดต่อกันรวม 1.00% นับตั้งแต่เดือนก.ย.2567 โดยได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ย. ขณะที่ปรับลด 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา

ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นนโยบายการเงินในวันที่ 29 ม.ค. ตรงวันเช้าวันที่ 30 ม.ค.ตามเวลาประเทศไทย โดยนายพาวเวล กล่าวว่า เฟดไม่รีบร้อนในการเปลี่ยนแปลงแนวทางนโยบายการเงินที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง

“เนื่องจากนโยบายการเงินของเราในขณะนี้ มีการคุมเข้มน้อยกว่าที่เคยเป็นมา และเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง เราจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการปรับนโยบายของเรา”

ส่วนในเรื่องเงินเฟ้อนั้น พาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และเมื่อพูดถึงแผนการของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะทำการทบทวนกรอบนโยบายการเงินครั้งใหม่ในปีนี้ พาวเวล กล่าวว่า เป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ระดับ 2% จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในอนาคต พาวเวลกล่าวว่า “เฟดจะต้องเห็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าเงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการเคลื่อนตัวสู่เป้าหมาย หรือตลาดแรงงานชะลอตัวลงในระดับหนึ่ง ก่อนที่เราจะพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนนโยบาย

ส่วนในกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามกดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ผ่านระบบวิดีโอในการประชุม World Economic Forum (WEF) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พาวเวลกล่าวว่า เขาไม่ได้ติดต่อกับประธานาธิบดีทรัมป์ นับตั้งแต่ที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในทันที

“ผมจะไม่ตอบสนองหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อสิ่งที่ประธานาธิบดีกล่าว มันไม่เหมาะสมที่ผมจะทำเช่นนั้น” พาวเวล กล่าว และเสริมว่า “สาธารณชนควรมั่นใจว่าเราจะทำงานของเราต่อไปเหมือนที่เราทำมาตลอด โดยมุ่งเน้นการใช้เครื่องมือของเราเพื่อให้เป้าหมายของเราบรรลุผล และมุ่งมั่นทำงานของเราอย่างจริงจัง”

ทั้งนี้ พาวเวลกล่าวว่า การทำงานของเฟดมีเป้าหมายทางเศรษฐกิจและกฎหมายเป็นเครื่องนำทาง ไม่ใช่การเมือง