
(วันนี้ 25 เม.ย.68) สมาคมนักวางแผนการเงินไทย (TFPA) ออกมาให้คำแนะนำแก่ประชาชน หลังจากเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเผชิญภาวะผันผวน ทั้งจากภัยธรรมชาติ ความตึงเครียดทางการค้า และนโยบายภาษีนำเข้าของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมายังประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
TFPA ระบุว่า คนไทยควร “ยกการ์ดสูง” ด้านการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานประจำ ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 6 เท่าของรายได้ต่อเดือน ส่วนกลุ่มอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ควรสำรองถึง 12 เดือนของค่าใช้จ่าย เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น เช่น การตกงาน หรือรายได้ลดลง
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการก่อหนี้เพิ่ม และมองหาช่องทางเสริมรายได้จากนอกเวลางานประจำ ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการหารายได้ในอนาคต เน้นย้ำว่า การวางแผนการเงินไม่ใช่เรื่องของคนรวยเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่คนทุกกลุ่มควรใส่ใจ เพราะการเตรียมพร้อมวันนี้ คือการป้องกันความเสียหายในวันข้างหน้า

นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย เผยว่า ผู้ที่มีรายได้ทุกคนจำเป็นต้องวางแผนการเงิน เพราะทุกอย่างรอบตัวล้วนเกี่ยวข้อง กับเงินในกระเป๋าของเราทั้งสิ้น ตั้งแต่เกิดแก่เจ็บตาย ค่าทำคลอด ค่าเทอมการศึกษา ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่งงาน มีลูก จนถึงการเตรียมเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนในชีวิตอื่น ๆ ความเจ็บป่วยอุบัติเหตุ ความไม่แน่นอนในการงานและธุรกิจ จนถึงบั้นปลายชีวิต ทุกอย่างต้องใช้เงิน ขณะที่ราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ล้วนปรับตัวขึ้นทุกปี รวมทั้งราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสี่ โดยข้อมูลอ้างอิงจากดัชนีราคาที่อยู่อาศัยและดัชนีราคาที่ดินของธนาคารแห่งประเทศไทย ย้อนหลัง 10 ปี พบว่าปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 28-46%
“เพราะเงินเรามีจำกัด ดังนั้นทุกคนที่เป็นผู้มีรายได้ จำเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน สร้างความมั่นคงในชีวิต และนำไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน และมีความมั่งคั่งมั่นคง สามารถใช้ชีวิตในยามเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ นักวางแผนการเงินจะช่วยทำโรดแมป เพื่อช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการเงินในแต่ละช่วงเวลาได้”
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยังพบว่า ประเทศไทยหรือคนไทย ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า นักวางแผนการเงินมีไว้สำหรับให้คนรวยเท่านั้น ส่งผลให้ในอดีตมีการใช้บริการนักวางแผนการเงินน้อยมาก
แม้ปัจจุบันจะมีการใช้บริการเพิ่มขึ้นก็ตาม เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่มีรายได้ทุกคน จำเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงิน ทั้งวางแผนการใช้จ่าย วางแผนการออม วางแผนป้องกันความไม่แน่นอน วางแผนการลงทุน วางแผนภาษี และวางแผนเพื่อชีวิตยามเกษียณ เพราะในทุกช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตจำเป็นต้องใช้เงิน