ขนส่งเอาจริงขึ้นราคา 9% จับตาราคาสินค้าปรับใหม่จะแพงตาม?

จะไปสุดที่ตรงไหน! ขนส่งเอาจริงขึ้นราคา 9% จับตาราสินค้าปรับใหม่จะแพงตามหรือไม่ ท่ามกลางเศรษฐกิจซึม-กำลังซื้อเศร้า

วันนี้ (26 มิ.ย.67) ภายหลังสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ทยอยปรับอัตราค่าบริการขนส่งสินค้าตามราคาน้ำมันทั่วประเทศ ส่งผลให้ต้องแบกภาระต้นทุนถึง 10% จึงปรับขึ้นราคาค่าขนส่งขึ้นตามอัตรา 3-9% ต่อราคาน้ำมันดีเซล 1 บาทที่เกิน 30 บาทต่อลิตร เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.67 ซึ่งการปรับขึ้นค่าขนส่งในรอบนี้อาจกระทบกับผู้ใช้บริการขนส่งสินค้าทุกประเภท รวมถึงประชาชนที่ต้องเผชิญกับภาวะสินค้าราคาแพงตาม

เรื่องนี้ นายสมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า จากการปรับอัตราค่าขนส่งขึ้น แต่เบื้องต้นราคาสินค้ายังไม่ปรับขึ้นตาม เนื่องจากผู้ผลิตสินค้าคิดต้นทุนจากรายละเอียดที่ระบุไว้ในผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว ดังนั้น การขึ้นราคายังไม่ง่าย ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจขณะนี้กำลังซื้อยังไม่ดี อย่างไรก็ตาม สินค้าจะปรับราคาได้อีกทีก็ต่อเมื่อวัตถุดิบต่างๆ หรืออะไรก็ตามเพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงกำลังซื้อต้องฟื้นขึ้นมาพร้อมกัน

“กำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นขณะนี้ใครขึ้นราคาไปก็ตาย เพราะที่ผ่านมามีสินค้าหลายตัวที่ขึ้นไปแล้วถอยลงมา เช่น เครื่องดื่มชูกำลังเจ้าหนึ่งกล้าหาญขึ้นราคาไปก่อน สุดท้ายก็ต้องถอยราคาลงมา แบรนด์นมเปรี้ยวหวานเจ้าหนึ่งปรับราคาสินค้าขึ้นไป สุดท้ายก็ถอยรูดลงมา พวกนี้ถ้าองค์ประกอบไม่พร้อมดี ขึ้นราคาไปก็อันตรายขายของไม่ได้”นายสมชายกล่าว

ขณะเดียวกัน นอกจากกำลังซื้อภายในประเทศจะไม่สู้ดีแล้ว การส่งออกสินค้าไปในต่างประเทศก็มีปัญหา เพราะไทยมีการส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านสูง เช่น เมียนมา ก็มีปัญหากำลังซื้อถดถอยเช่นเดียวกันกับไทย หากขึ้นราคาสินค้าต่อไปก็ไม่มีลูกค้าซื้อสินค้า ดังนั้น อยู่ในภาวะที่ทุกคนต้องอดทนและลดราคาค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สามารถลดรายจ่ายได้

“ตอนนี้ผู้บริโภคหมดเวลาภักดีกับสินค้าแบรนด์เดิมแล้ว เพราะถ้าสมมุติสินค้าแบรนด์หลักขึ้นราคาปุ๊บจะมีสินค้าแบรนด์อื่นที่รอจะเกิดอีกเยอะแยะ บริษัทเล็ก บริษัทกลางที่รอเกิดและทำราคาได้ถูกกว่าก็รอจังหวะเจ้าใหญ่พลาด เพราะถ้าเบอร์ 1 ไม่พลาด เบอร์ 2 หรือ 3 ก็ไม่เกิด เพราะสิ่งที่จะพลาดคือเจ้าใหญ่คิดว่าเมื่อขึ้นราคาลูกค้ายังอยู่ อันนี้มีหลายคนเสียใจมาเยอะพอสมควรแล้ว”นายสมชายกล่าว

ขณะที่ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ 18 หมวด และสินค้าที่นอกเหนือจากนี้ เนื่องจากต้นทุนการขนส่งเป็นหนึ่งในต้นทุนของสินค้า ซึ่งจะมีมากน้อยแตกต่างกันตามน้ำหนักการขนส่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ปรับขึ้นราคา

“การปรับขึ้นราคาสินค้านั้น แต่ละรายการมีต้นทุนค่าขนส่งไม่เท่ากัน ทั้งชนิดของรายการสินค้าประเภทของผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งจะต้องมีการพิจารณา คำนวณต้นทุนที่ไม่เหมือนกัน และต้องดูทั้งต้นทุนทางตรงและทางอ้อมด้วย ทั้งนี้ ยังต้องดูว่าตอนนี้มีการปรับขึ้นค่าขนส่งไปแล้วจริงไหมขึ้นเท่าไร โดยเราจะไม่เพิกเฉยดูแลทุกสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อค่าครองชีพ”นายวัฒนศักย์กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าช่วงนี้ หมวดเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และผักสด มีแนวโน้มปรับลดลง โดยราคาหมูเนื้อแดง เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 132.19 บาท/กก. เนื้อไก่ ส่วนน่อง-สะโพก อยู่ที่ 82.56 บาท/กก. ไก่เนื้อสะโพก 86.25 บาท/กก. และไก่เนื้ออก 83.19 บาท/กก. ขณะที่ราคาผัก เช่น ผักคะน้า ปรับลดลง เหลือ 33.80 บาท/กก. ถั่วฝักยาว 56 บาท/กก. กวางตุ้ง 36.50 บาท/กก. พริกขี้หนูจินดา 81.30 บาท/กก. และมะนาว เบอร์ 1-2 ลูกละ 3.58 บาท