
วันนี้ (18 ต.ค.67) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงต้นปีหน้า เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเกิดแรงเหวี่ยงตลอดทั้งปี 68 โดยมีความมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยปี 67 จะขยายตัวได้ 3% ขณะที่ปี 68 จะขยายตัวได้มากกว่า 3% จากตัวเลขประมาณการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คาดว่าปี 67 ขยายตัว 2.7% และปี 68 ที่ 2.9%
ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่าผลมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ มีส่วนอย่างมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากสามารถเบิกเงินสดไปใช้จ่ายได้ทันที ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการประเมินผลอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก รัฐมนตรี เป็นประธาน มีกำหนดนัดประชุมนัดแรก ภายในปลายเดือนต.ค. หรืออย่างช้าเดือนพ.ย.67 ซึ่งในการหารือจะมีการรายงานรวมถึงมาตรการต่างๆ ที่เตรียมไว้เพื่อให้ที่ประชุมฯ พิจารณา
เช่น เรื่องมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว และมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ขอยืนยันว่าดำเนินการโครงการนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่จะออกมาเป็นรูปแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการฯ
“ขอยืนยันสุดท้ายแล้วเงินจำนวน 10,000 บาท จะถึงมือประชาชนที่ได้สิทธิทุกคนอย่างครบถ้วนอย่างแน่นอน ในช่วงต้นปีหน้า ส่วนรายละเอียดว่าจะแจก 10,000 บาท ทั้งก้อนหรือมีการแบ่งทยอยจ่ายนั้น ยังตอบไม่ได้ แต่การันตีว่า แจกเงิน 10,000 เฟส 2 มีแจกอย่างแน่นอน”นายจุลพันธ์กล่าว

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ที่ยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท หรือกลุ่มตกหล่นจำนวนกว่า 300,000 คนนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลโดยกรมบัญชีกลางจะทำการโอนรอบจ่ายซ้ำได้แก่ วันที่ 22 ต.ค. วันที่ 22 พ.ย. และ 22 ธ.ค.2567 ขณะที่ กลุ่มคนพิการวันที่ 21 ต.ค. วันที่ 21 พ.ย. และวันที่ 19 ธ.ค.67
สำหรับการเปิดลงทะเบียนสำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน เพื่อรับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาทนั้น เหตุที่เลื่อนมาอย่างไม่กำหนดเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล อย่างไรก็ดี รัฐบาลยืนยันว่าจะการเปิดลงทะเบียนให้แน่นอน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ภายในเดือนพ.ย.นี้ ส่วนวันที่กำหนดชัดเจนแล้วจะประกาศหลังจากที่มีข้อสรุปจากคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ
กรณีประชาชนและภาคเอกชนเรียกร้องให้รัฐบาลทำมาตรการคนละครึ่งต่อนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลรับพิจารณาข้อเสนอทั้งหมดไม่ได้มีการปิดกั้น ทางรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่ได้มีการยึดติดกับเรื่องศักดิ์ศรี เพราะรัฐบาลเอาประโยชน์ของชาวบ้านเป็นหลัก และถ้าโครงการที่เสนอมายังมีประโยชน์อยู่ รัฐบาลก็ทำได้ ไม่ได้ติดขัดอะไร
