“ดร.รักษ์ เอ็กซิมแบงก์” คาดทั้งปี’67 เงินบาทเฉลี่ย 33-34 บาท/ดอลลาร์

“เอ็กซิมแบงก์” คาดทั้งปี’67 เงินบาทเฉลี่ย 33-34 บาท/ดอลลาร์ ชี้บาทแข็งไม่ใช่ปัจจัยหลัก กระทบส่งออก แนะธุรกิจปรับตัวรับเทรนด์โลกเปลี่ยน

วันนี้ (26 ก.ย.67) ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงินบาท) ขณะนี้เคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้น ว่า วันนี้จะเห็นว่าเงินวิ่งเข้ามาที่ทวีปเอเชีย เนื่องจากกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จึงเป็นที่มาว่า Return ในตลาดอเมริกันลดน้อยลงเงินจึงวิ่งไปที่ตลาดที่น่าจะมี Return ได้มากขึ้น

ดร.รักษ์ กล่าวว่า ซึ่งหนึ่งในตลาดที่นักลงทุนมักจะวิ่งเข้ามาเมื่อเกิดสิ่งที่เป็นการลดดอกเบี้ยที่ตลาดอเมริกัน หรือตลาดยุโรป ก็คือตลาดเอเชีย ทุกประเทศในอาเซียนวันนี้สกุลเงินแข็งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ใช่แข็งค่าขึ้นเฉพาะประเทศไทย

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)

“แต่ประเทศไทย โดยจะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยสูงขึ้น หรือเขียวแล้ว จะเห็นว่าเงินนอกไหลเข้ามาลงทุน เพราะเราเนื้อหอมแล้ว วันนี้จะเห็นว่าค่าเงินหลุดที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และลงถึง 32.91 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถ้าเป็นไปได้สถานการณ์นี้จะเป็นหน้าของการซื้อของ ไม่ใช่ขายของ”ดร.รักษ์กล่าว

ดังนั้น ไทยต้องเปลี่ยนว่าทุกวิกฤติมีโอกาส เนื่องจากธุรกิจต้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การซื้อเครื่องจักร หรือปรับระบบการทำงานให้เป็นออโตเมชั่นต่างๆ รวมถึงการซื้อของที่ต้องเป็นลักษณะรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อมาพัฒนาธุรกิจ

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)

“มองว่าค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 67 คาดว่าจะอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (+/-) จึงยังไม่ถึงระดับที่เรียกว่าเลวร้ายมาก และยังมีความหวังว่าตัวเลข 33 ปลายๆ หรือ 34 ต้นๆ จะกลับมาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้” ดร.รักษ์กล่าว

สำหรับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะมีผลต่อการส่งออกในปลายปี 67 และปี 68 หรือไม่นั้น ดร.รักษ์กล่าวว่า จริงๆ เงินบาทแข็งเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่ปัจจัยที่ต้องมานั่งถามตัวเองมากที่สุดว่าการส่งออกจะเป็นเครื่องยนต์หลักที่สนับสนุนตัวเลขสูงขึ้น และเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่หรือไม่

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)

ดร.รักษ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ต้องถามว่าตอนนี้สิ่งที่ไทยขายยังเป็นสิ่งที่ตลาดโลกต้องการอยู่หรือไม่ เพราะวันนี้ไทยยังได้อานิสงส์จากสิ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ไทยมีการเปิดประเทศให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ฟู้ดแอนด์เบฟเวอเรจ อาหารที่มาจากภาคเกษตรต่างๆ ยังอยู่ท็อป 3 และ 5 แต่ที่จะลดลงและยังปรับตัวไม่ทัน เช่น ออโตเมติก อุตสาหกรรมเก่า ปั่น ทอ ฟอก ย้อม ยังขาดความแข็งแกร่งเชิงส่งออกแล้ว

“จึงเป็นที่มาว่า EXIM BANK จะพาผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ข้ามโขง เพื่อไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม จากเดิมที่อยู่สมุทรปราการ แต่การอยู่ที่เดิมไม่ตอบโจทย์ จึงต้องพาไปอยู่ในเมืองที่ตอบโจทย์ และมีการส่งออกสินค้าเหล่านั้นได้อยู่ ซึ่งจะพาผู้ประกอบการไปในประเทศเหล่านั้น อีกทั้งธนาคารมีสาขาอยู่ในต่างประเทศกลุ่มเพื่อนบ้านด้วย”ดร.รักษ์กล่าว