“ถนนข้าวสาร” หงอย นักเที่ยวหายวูบ ธุรกิจกลางคืนรอวัน “เซ้งกับเจ๊ง”

ซึมหนัก! “ถนนข้าวสาร” เหงาหงอย นักเที่ยวหายวูบ ธุรกิจกลางคืนปิดตัวรอวัน “เซ้งกับเจ๊ง” หลังยอดห้องพักตกกว่า 10 ล้านบาท/วัน

จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในขั้นกำลังฟื้นตัว แต่ในทางกลับกัน “ธุรกิจ” ไม่ไหวจะรอ เพราะนายจ้างหลายคนสู้กับความไม่แน่นอน ต้นทุนทางการเงิน รวมถึงกำลังซื้อของคนที่หายไปเรื่อยๆ ไม่ไหว จนนำไปสู่การปิดกิจการในที่สุด

วันนี้ (26 ก.ค.67) รายงานจากรายการ THANTALK ระบุว่าธุรกิจกลางคืนย่านถนนข้าวสาร ที่เป็นสถานท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ไม่ค่อยคึกคักมากนัก แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เผยว่าช่วง 6 เดือนแรกของปี 67 (ตั้งแต่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน) นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสมกว่า 17.5 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 8.25 แสนล้านบาท หรือมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง


ข่าวน่าสนใจอื่น


ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจในถนนข้าวสารไม่ได้ฟื้นตามตัวเลขนักท่องเที่ยว อีกทั้งสถานการณ์ซบเซาไปถึงขั้นที่ว่าบางกิจการไปต่อไม่ไหว หรือต้องเซ้งกิจการมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเทียบสถานการณ์ถนนข้าวสารในปี 62 หรือช่วงก่อนเกิดโควิดการท่องเที่ยวคึกคักมาก แต่ช่วงที่ผ่านมา หลังจากเกิดโควิดแล้ว พบว่าธุรกิจร้านค้าเปลี่ยนไป และจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลง

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า สถานการณ์ถนนข้าวสารมีการเซ้งธุรกิจกว่า 10% มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเท่าตัว เนื่องจากคนไทยเที่ยวน้อยลง เพราะเศรษฐกิจยังซบเซา อีกทั้งในไตรมาส 1/67 (เดือนม.ค.-มี.ค.67) มีนักท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับเข้าไทยช่วงเทศกาล แต่เมื่อเข้าไตรมาส 2/67 (เดือนเม.ย.-มิ.ย.67) ซึมตัวลง และเริ่มกลับมาฟื้นได้ช่วงเดือนพ.ค.67 จากนักเที่ยวชาวยุโรปช่วงเทศกาล Pride month 2024

“เข้าไตรมาส 3/67 (เดือนก.ค.-ก.ย.67) เริ่มจะไม่คึกคักจากตัวเลขนักท่องเที่ยวไม่เข้าเป้า สะท้อนจากการจอกห้องพักย่านถนนข้าวสารปกติจะมีเงินสะพัดมากกว่า 20 ล้านบาท/วัน ปัจจุบันหายไปเกือบครึ่ง เหลือเพียง 10 ล้านบาท/วัน ส่งผลให้ธุรกิจหายตามไปเช่นกัน แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากรัฐบาลมีมากขึ้น แต่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวลดลง”นายสง่ากล่าว

อย่างไรก็ตาม ความหวังของถนนข้าวสาร คาดว่าจะมีความคึกคักมากขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามีมากถึง 5 ล้านคน การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง (ผับ-บาร์) ให้ขยายเวลาถึง 04.00 น. ให้จัดทำเป็นโซนนิ่ง (แม้จะเริ่มทำในบางพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่แพร่หลายมากขึ้น) รวมถึงการปลดล็อกการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเวลา 14.00-17.00 น.

ทั้งนี้ ถนนข้าวสารได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนขวัญใจชาวต่างชาติมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 80% และคนไทย 20% แต่ในสถานการณ์ ณ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาแฮงค์เอ้าท์ในย่านข้าวสารลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคนไทยจากเดิมที่นิยมมาเที่ยวในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เป็นหลักวันใดวันหนึ่งของสัปดาห์โดยเฉลี่ย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ปัจจุบันค่าเฉลี่ยกลายเป็น 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์