PSH ตั้งเป้ารายได้ 2.3 หมื่นล้าน วางแผนเพิ่มรายได้จากสุขภาพเท่าเทียมอสังหาฯ

พฤกษา กรุยทางบุกเรื่อง สุขภาพมากขึ้น วางแผนสร้างโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง ในอีก 3 ปีข้างหน้า มี 600-700 เตียง พร้อมผุด 22 โครงการบุกอสังหาริมทรัพย์ เน้นบ้านเดียวราคาแพง

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลอิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในอนาคต บริษัทฯ ว่างเป้าหมายพัฒนาธุรกิจดูแลสุขภาพ คิดเป็นสัดส่วนของกิจการ 50% โดยจะลดบทบาทธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลง เนื่องจากสุขภาพที่ดี เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แม้ในวาระสุดท้ายจะต้องตายก็ตาม

สำหรับแผนงานในปีนี้ จะมีการขยายโรงพยาบาลใหม่ที่ให้บริการเฉพาะทาง โดยได้วางแผนการลงทุนเอาไว้ประมาณ 3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการก่อสร้างโรงพยาบาลวิมุติ ทองหล่อ โรงพยาบาวิมุติ สุขุมวิท และโรงพยาบาลวิมุติ ปิ่นเกล้า ซึ่งถือเป็นเฟสแรกของแต่ละโรงพยาบาล โดยในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่า กลุ่มโรงพยาบาลของพฤกษาฯ มีเตียงสำหรับดูแลผู้ป่วย 600-700 เตียง จากปัจจุบันประมาณ 400 เตียง

“ธุรกิจโรงพยาบาลในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 2,187 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากศัลยกรรม การตรวจสุขภาพ การดูแลเด็ก แผนกฉุกเฉิน แผนศัลยกรรมกระดูกและข้อ กระดูกสันหลัง สูตนรีเวช และระบบทางด้านอาหาร”

ส่วนธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและปีนี้ ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยมองธุรกิจอสังริมทรัพย์ปีนี้ จะขยายตัวดีกว่าไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว เนื่องจากคณะกรรมกรรมการนโนบายการเงิน หรือกนง.ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ประกอบกับ ธนาคารแห่ประเทศไทย (ธปท.) เห็นด้วยกับภาคเอกชนที่จะยกเลิกมาตรการ LTV หรือ Loan to Value หมายถึง อัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้านโดยเทียบกับมูลค่า ซึ่งจะเพิ่มกำลังซื้อให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มากขึ้น

นายทองมา กล่าวว่า ปี 2567 พฤกษาฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท ทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ 31.3% โดยยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net gearing ratio) ต่ำที่ 0.31 เท่า

สำหรับปีนี้ รายได้รวมของ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) คาดว่า จะมีรายได้อยู่ที่ 23,500 ล้านบาท โดยได้วางแผนเปิดโครงการใหม่ 22 โครงการ มูลค่า 23,400 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการทาวน์เฮาส์ 8 มูลค่า 4,900 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 8,100 ล้านบาท โดยเป็นโครงการระดับบนและบ้านแนวราบราคามากกว่า 7 ล้านบาท ในสัดส่วนกว่า 50% ของโครงการทั้งหมดที่จะเปิดในปีนี้

“ในปีนี้ จะเน้นการพัฒนาเป็นโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์ และโครงการที่มีจุดเด่นด้านทำเล โดยจะมีการเปิดตัวแบรนด์ระดับบนหลายโครงการ เช่น The Palm The Reserve และ Chapter และเป็นโครงการที่ใกล้เมืองมากขึ้นและมีขนาดเล็กลง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน พร้อมกับตั้งเป้ายอด ขายที่ 19,800 ล้านบาท”