วานนี้ (22 ส.ค.67) ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าววิสัยทัศน์ตอนหนึ่งระบุถึงนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ย้อนกลับไปในอดีตตอนนั้น ผมเคยคิดไว้แต่ทำไม่ได้ เพราะมีคนค้าน แต่วันนี้ผมไม่ได้คิดเลยไม่มีคนค้าน แล้วมีคนเชียร์เยอะ
ซึ่งในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ประกอบด้วยหลายอย่าง เช่น สวนสนุกของเด็ก คอนเสิร์ตฮอลล์ สนามกีฬา แต่พื้นที่ที่เป็นกาสิโนจริงๆ มีไม่ถึง 10% ของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อันนี้เป็นกติกาที่ใช้กัน และไทยก็จะใช้กติกาแบบนี้
แต่ละแห่งต้องลงทุนในกรุงเทพฯเป็นแสนล้านบาท ลงทุนน้อยๆ ไม่เอา มันไม่หล่อ แล้วจะสู้ประเทศอื่นไม่ได้ เพราะถือเป็นโอกาสที่จะเติมสิ่งที่ขาดลงไป เช่น วันนี้ จะมีคอนเสิร์ตดีดีแต่ไม่มีฮอลที่ใหญ่พอ แต่มีการจัดกลางแจ้งก็เกิดฝนตกบ้าง
ดังนั้น สิ่งไหนที่ขาดก็จะเรียกร้องให้เขามาลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นการลงทุนโดยที่เราไม่ต้องลงทุน
“ต่อไปการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐบาลจะต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ และต่อด้วยถ้าชนะการเลือกตั้งก็เป็นรัฐบาลหน้าต่อ แต่ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าผมจะเป็นอัลไซเมอร์มั๊ยเพราะแก่แล้ว”นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณกล่าวว่า สำหรับเรื่องของเศรษฐกิจใต้ดิน วันนี้คนไทยขาดทุนให้พนันออนไลน์ มียอดฝาก 3 ล้านล้านต่อปี และคนไทยขาดทุนประมาณ 5 แสนล้าน ถ้าเราเก็บภาษีประมาณ 30% ได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และเราเอาภาษีที่ได้เอียร์มาร์ก แท็กซ์ ให้ส่งเด็กไปต่างประเทศ หรือจ้างครูเก่งๆ มาสอนนักเรียนในประเทศ
ก็ขอฝากเป็นข้อคิดไว้ เอาเงินใต้ดินขึ้นบนดิน ไม่งั้นตำรวจตีกันหมด
“ประเทศไทยวันนี้เหมือนเม็กซิโก และโคลัมเบียร์ในสมัยก่อนที่เศรษฐกิจใต้ดินเราสูงมากถ้าเศรษฐกิจเราขึ้นมาบนดินได้อีก 50% ก็ทำให้จีดีพีเราโตได้อีก 50% เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจในระบบเรามีไม่ถึง 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจนอกระบบ”นายทักษิณกล่าว