
วันนี้ (4 มี.ค.68) ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดผลสำรวจมุมมองต่อ ทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค.68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey พบว่า
14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่า ราคาทองคำ ในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 9 ราย หรือเทียบเป็น 64% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 22% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 339 ราย ในจำนวนนี้มี 130 ราย หรือเทียบเป็น 38% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 162 ราย หรือเทียบเป็น 48% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 47 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยสถานการณ์ราคาทองคำนั้น ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 46,250 – 46,850 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 46,400 บาท ต่อบาททองคำ ลดลง 300 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 46,700 บาท)
ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องติดตามดังนี้
- มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้ามาตรการกีดกันทางการค้า โดยกำหนดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ ได้แก่ ภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% (ยกเว้นสินค้ากลุ่มพลังงานจากแคนาดา ที่ถูกเก็บภาษี 10%) ซึ่งเลื่อนการบังคับใช้เป็นวันที่ 4 มีนาคม 2568 ภาษีนำเข้าสินค้าเหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมจากทุกประเทศ 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มีนาคม 2568 มาตรการเหล่านี้อาจส่งผลให้ต้นทุนสินค้านำเข้าสูงขึ้น ก่อให้เกิดความตึงเครียดทางการค้า และกระทบต่ออุตสาหกรรมที่พึ่งพาวัตถุดิบเหล่านี้
- การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตลาดคาดการณ์ว่า ECB อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ 2.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง นักลงทุนจะจับตาถ้อยแถลงของ ECB เพื่อดูแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้
- รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ รายงาน Beige Book ของ FED, ดัชนี PMI ภาคบริการ, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน, ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของเดือน กุมภาพันธ์ 2568 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์