![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739429594_502140-ejan-768x402.jpg)
วันนี้ (13 ก.พ.68) นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ได้แสดงความขอบคุณ นายกแพทองธาร ชินวัตร ที่รับฟังเงื่อนไขที่ทางชมรมได้เรียกร้องมาตลอดปีหลายปีที่ผ่านมา ในเรื่องของการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิวัติ 2515 ที่ไม่ให้จำหน่าย แอลกอฮอล์ ในร้านอาหารในช่วงเวลา 14.00 น.-17.00 น. ซึ่งทางชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารได้เรียกร้องมาจน ณ วันนี้ ต้องกราบขอบพระคุณ นายก แพทองธาร ที่เข้าใจในความล้าหลังของคำสั่งคณะปฏิวัติอันนี้
ซึ่งวัตถุประสงค์ของคณะปฏิวัติ 2515 อันนี้ วัตถุประสงค์เดิมที่ประกาศออกมา คือไม่ให้ต้องการให้ข้าราชออกไปนั่งดื่มในเวลางาน ซึ่งใช้กันมา 53 ปี ซึ่งบริบททางสังคมนั้นเปลี่ยนไปอย่างที่บอก
จดหมายที่เรียนถึง นายกฯ แพทองธาร เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ทางชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ได้เรียกร้องไปก่อนหน้านั้นหลายครั้งแล้ว ล่าสุดได้เรียกร้องไปอีกครั้งว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เปลี่ยนมาเป็นประเทศที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและมีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2025/02/1739429582_284102-ejan-1024x684.jpg)
รวมถึงเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว บริบทอันนี้ไม่สามารถนำไปใช้กับคำสั่งคณะปฏิวัติ 2515 เรื่องห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร 14.00 น.- 17.00 น. อีกต่อไป
ทางชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารเข้าใจว่ามีหลายหน่วยงานมีความกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อเยาวชน ซึ่งทางชมรมได้เขียนและอธิบายตลอดว่า เราขอเรียกร้องให้กับเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เป็นร้านอาหารเท่านั้น ที่ให้ยกเลิกการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 14.00 น.-17.00 น. และมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเยาวชนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรามีกฎหมายในการดูแลหลายฉบับทับซ้อน
ตัวอย่าง ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกับผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ กฎหมายเมาแล้วขับก็ครอบคลุมในส่วนตรงนี้อยู่แล้ว ที่สำคัญตนได้เน้นย้ำตลอดว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการปลูกจิต สำนึกและให้ความรู้แก่ประชาชน ซึ่งดีกว่าการเอากฎหมายมาครอบ ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถค้าขายได้ตามสภาพประเทศแห่งการท่องเที่ยว หรือตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
ตัวอย่าง หากเกิดในยุค Gen X จะคุ้นเคยกับประโยค “ตาวิเศษเห็นนะ” ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ในการรณรงค์ต่อเนื่องกันมาหลาย 10 ปี ในเรื่องไม่ให้คนไทยทิ้งขยะบนท้องถนน เป็นการปลูกจิตสำนึกจนมาถึงรุ่นปัจจุบันจนทำให้บ้านเมืองสะอาดจนถึงทุกวันนี้ เช่นเดียวกันกับต้องขอบคุณ สสส.ที่ทำแคมเปญใหญ่ “เมาไม่ขับ” มาตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี ทำให้ประชาชนมีจิตสำนึกเมาไม่ขับ
ที่สำคัญหากปลดล็อกคำสั่งคณะปฏิวัติฉบับนี้ไปได้ จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในกับกลุ่มภาคธุรกิจร้านอาหารให้สามารถเติบโต และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง GDP ให้กับประเทศไทยสามารถเติบโตได้ในปีนี้ รวมทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย
เพราะทุกวันนี้ต่างชาติเมื่อเข้าไปร้านอาหารวัตถุประสงค์หลักไม่ใช่เข้าไปดื่มแอลกอฮอล์แต่อยากเข้าไปทานอาหาร นักท่องเที่ยวเหล่านี้ก็ต้องการสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาทานควบคู่ไปกับการทานอาหารด้วย พอมีกฎหมายฉบับนี้ที่ห้ามขายนักท่องเที่ยวตัดสินใจไม่เข้าร้านในช่วง 14.00 น. – 17.00 น. ไปเข้าอีกทีคือช่วงเย็น
ซึ่งทำให้ 14.00-17.00 เป็นช่วงที่ร้านอาหารค่อยข้างจะเงียบเหงาและไม่สามารถทำรายได้ได้ และยังสร้างความมึนงง และไม่เป็นมาตรฐานสากลในกับนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วโลก
ทั้งนี้ จึงกราบขอบพระคุณไปยังนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ที่เข้าใจในเรื่องของข้อเรียกร้องที่ชมรมได้เรียกร้องมาโดยตลอด และเข้าใจในเรื่องของบริบทและกฎหมายที่ล้าหลังกับบริบทของประเทศในปัจจุบัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ใช้ทัน 1 เม.ย.68