กสิกรไทย รายงานไตรมาส 1/2568 โกยกำไร 13,791 ล้านบาท

ปังอยู่! “กสิกรไทย” รายงานไตรมาส 1/2568 โกยกำไร 13,791 ล้านบาท โตแผ่ว 1.08% รับรายได้้ดอกเบี้ยลดลง

วันนี้ (21 เม.ย.68) นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 ขยายตัวในกรอบจำกัด แม้การส่งออกสินค้าจะขยายตัวสูงจากผลของการเร่งส่งออกก่อนการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนกลับไม่ได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่ เพราะปัญหาเชิงโครงสร้าง การแข่งขันสูง และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2568 เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ปรับปรุงใหม่ ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจำนวน 2,761 ล้านบาท หรือ 7.23% เป็นผลจากการเผชิญแรงกดดันของภาวะอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ให้มีประสิทธิผลสูงสุดอย่างระมัดระวัง

ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.41% แม้ว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตขึ้นจำนวน 1,826 ล้านบาท หรือ 15.39% จากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน รายได้จากการลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการดำเนินงานสุทธิลดลงจำนวน 935 ล้านบาท หรือ 1.87% โดยค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 40.84%

นอกจากนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงยึดหลักความระมัดระวังอย่างรอบคอบตามที่ได้ปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอ จึงพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จำนวน 9,818 ล้านบาท เพื่อให้สำรองฯ อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพียงพอ รองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าปีก่อน และเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนสูง ทำให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารมีจำนวน 13,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.08% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน  

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 4,355,212 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 14,258 ล้านบาท หรือ 0.33% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่ปรับปรุงใหม่ ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนสุทธิ ซึ่งเป็นการลงทุนตามการคาดการณ์ภาวะตลาดและทิศทางอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม เงินให้สินเชื่อสุทธิลดลง เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยธนาคารยังคงมุ่งเน้นการขยายสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินทรัพย์ และการเพิ่มผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงให้เหมาะสม

ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) อยู่ที่ระดับ 3.19% และค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 159.49% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 20.52%