คอกาแฟ จ่ายแพงขึ้น ! กาแฟสำเร็จรูปแจ้งปรับขึ้นราคา 5%

มีผลพรุ่งนี้ ! (1 ก.พ. 68) กาแฟผง-กระป๋อง แจ้งปรับราคาขึ้น 5% กาแฟกระป๋องจ่ายเพิ่มจากเดิม 2 บาท เป็น 17 บาท/กระป๋อง

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.68 นายสมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคว่า สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟ ทั้งในส่วนของกาแฟผง และเครื่องดื่มกาแฟ บรรจุกระป๋องและบรรจุขวด ยังมีแนวโน้มราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกปรับราคาสูงขึ้น จากผลผลิตโลกที่ลดลง ขณะที่ประเทศไทยเองมีการนำเข้ากาแฟดิบ มาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตกาแฟในปริมาณมากขึ้น

“โดยล่าสุดผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟรายใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าตลาดของไทยได้แจ้งขอปรับขึ้นราคากาแฟผงสำเร็จรูปอีก 5% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2568 ขณะที่ผู้ผลิตเครื่องดื่มกาแฟ ก็แจ้งขอปรับขึ้นราคาอีก 5% เช่นกัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2568 ส่งผลให้ราคาเครื่องดื่มกาแฟบรรจุกระป๋องจะปรับราคาเพิ่มขึ้น เฉลี่ยกระป๋องละ 2 บาท จากเดิมกระป๋องละ 15 บาท จ่ายเป็นเป็น 17 บาท”

“เมล็ดกาแฟ”ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

ที่ราคากาแฟสำเร็จรูปหลายรายปรับราคาขึ้นนั้น สาเหตุมาจากราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกมีราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2-3 วันผ่านมา ท่ามกลางประเทศไทยนำเข้ากาแฟดิบจากต่างประเทศใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตกาแฟในปริมาณมาก

ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์นานาชาติกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษหรือไอซีอีเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2025 สัญญาซื้อขายราคาเมล็ดกาแฟล่วงหน้า หรือ Futures สายพันธุ์อราบิก้า ซึ่งผลิตในละตินอเมริกา มีราคาพุ่งขึ้นแตะสูงสุดที่ระดับ 3.6945 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ ส่งผลทำสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ยังมีราคาพุ่งทะยานขึ้นจากต้นปีนี้ถึง 15% แล้ว เหตุจากประเทศบราซิลส่งเมล็ดกาแฟไปทำขายมากถึง 70-80% ของรอบการปลูกเมล็ดกาแฟในปัจจุบัน ในขณะที่ความต้องการการบริโภคมีเพิ่มสูงต่อเนื่อง ท่ามกลางบราซิลเป็นประเทศผลิตเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อราบิก้า ถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิตทั่วโลก

ขณะที่ ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเมล็ดกาแฟอันดับต้นๆ ของโลก เปิดเผยว่า มีการขายเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าในปริมาณที่ลดลงจากผลกระทบของสภาวะอากาศที่ทำให้ผลผลิตลดต่ำลง สอดรับกับประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟสายพันธุ์เดียวกันที่มีขนาดใหญ่อันดับ 5 ของโลก ปรากฏว่า การส่งออกจากอินเดียจะลดต่ำลงราว 10% ในปี 2025 นี้ เนื่องจากผลผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้าในอินเดียลดน้อยลง