
ตลาดหลักทรัพย์ ออกมาตรการคุมเข้ม รองรับความผันผวนจาก วิกฤติ ภาษีทรัมป์ Trump’s Tariff Effect ทั้งใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (TFEX) ยาว 4 วัน เริ่ม 8 เมษายนนี้
โดยมาตรการดังกล่าว ประกอบไปด้วย
- ปรับลดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด Ceiling/Floor ลงครึ่งหนึ่ง เช่น Common Stock จาก 30% เหลือ 15%
- ปรับกรอบราคาการซื้อขายแบบ Dynamic Price Band ลดลงครึ่งนึง จาก 10% เหลือ 5%
- ไม่อนุญาตให้มีการซื้อขายระยะสั้น (Short Sell) ยกเว้น Market Maker หรือ ผู้สร้างสภาพคล่อง ที่ได้รับอนุญาตแล้ว จะสามารถ Short sell ได้ตามปกติ

ส่วนตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จะมีการปรับราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด Ceiling/Floor ลดลงครึ่งนึง สำหรับ Equity based product (ผลิตภัณฑ์ตามมูลค่าหุ้น) จาก 30% เหลือ 15%
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ออกมาแสดงความเห็นด้วย และจะติดตามการใช้มาตรการชั่วคราวของตลาดหลักทรัพย์ฯ และ TFEX ในครั้งนี้
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า การออกมาตรการของ SET ดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจตามข้อบังคับของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ ซึ่งคณะกรรมการ ก.ล.ต และคณะกรรมการ ก.ต.ท. ได้เห็นชอบไว้ เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อตลาด ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ TFEX สามารถดำเนินการออกมาตรการชั่วคราวเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ได้

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และ TFEX อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง และเห็นว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยลดความผันผวนของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ TFEX ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตลาดทุนโดยรวม โดย ก.ล.ต. จะได้ติดตามและประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และ TFEX เพื่อประเมินสถานการณ์และผลของมาตรการชั่วคราวและสถานการณ์ในภาพรวมต่อไป